ครป.จี้สอบขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ เอี่ยวนักการเมืองหรือไม่-อธิบดีคนไหนนำเข้าม้าลายจนเกิดโรคระบาด

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีสถานการณ์โรคระบาดในม้าหรือโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าน จ.นครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงว่า ปัญหายังไม่คลี่คลายและมีแนวโน้มจะลุกลามขยายตัวไปอีกหลายจังหวัดนั้น ปัจจุบันทำให้มีม้าเลี้ยงของชาวบ้านล้มตายไปกว่า 600 ตัวแล้ว

ครป.ได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่า โรคระบาดดังกล่าวอาจกระจายไปทั่วประเทศได้ในไม่ช้า เนื่องจากการปล่อยปะละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่ล่าช้าและสาเหตุอาจมาจากขบวนการค้าสัตว์ป่าหรือม้าลายข้ามชาติที่มีนักการเมืองหนุนหลัง ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เข้ามาตรวจสอบโรคระบาดตามที่มีการร้องเรียน คงไม่เป็นข่าวเหมือนวันนี้

ขณะนี้เป็นสถานการณ์วิกฤตซ้ำซ้อนเนื่องจากโรคกาฬโรคแอฟริกา (AHS) นับว่าเกิดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก มีม้าติดเชื้อตายตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา และน่าจะติดเชื้อมาจากม้าลายที่นำเข้ามาจากแอฟริกา โดยนำมาพักไว้ที่เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนริ้นจะเป็นพาหะนำเชื้อจากม้าลายที่ป่วยกระจายไปทั่วฟาร์มม้าใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จนตายเป็นเบือ นับว่าเป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ในสัตว์ของประเทศไทยอีกโรคหนึ่ง ดีที่ยังไม่สามารถติดต่อลามมาสู่คนได้

นอกจากนี้ หลังเชื้อโรคกระจายไปฟาร์มพักม้าลายที่เขาหินซ้อนก็ยังไม่มีการควบคุม ไม่มีการกั้นคอกทำหลังคาหรือกางมุ้งป้องกันโรคจากม้าลาย ตามที่มีภาพหลุดออกมาหลังเจ้าหน้าที่ถูกร้องเรียนให้เข้าไปตรวจสอบและเรื่องเงียบหายไม่มีใครรับผิดชอบ และโยนกันไปมาระหว่างกรมปศุสัตว์และกรมอุทยานฯ ที่ทำงานแยกส่วนกันไม่เป็นเอกภาพจนไม่สามารถสกัดกั้นโรคระบาดได้

เรื่องนี้อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนว่า การจัดหาวัคซีนป้องกันโรคของกรมปศุสัตว์ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท มีความโปร่งใสหรือไม่ เพราะแม้แต่โรงพยาบาลชุมชนซื้อยาทั้งปีไม่เกิน 10 ล้านบาท โรงพยาบาลอำเภอหลายแห่งใช้งบประมาณซื้อยาทั้งปีก็เพียงแค่ 14 ล้านบาทเท่านั้น

ผมขอให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบว่าการนำเข้าม้าลายนี้เป็นหนึ่งในขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติหรือไม่ และมีนักการเมืองคนไหนเกี่ยวข้องบ้าง การแก้ไขปัญหาถึงล่าช้า ที่ผ่านมาเคยมีข้อครหาว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งค้าสัตว์ป่าติดอันดับโลกและเป็นที่พักสัตว์ป่าก่อนนำส่งประเทศปลายทาง โดยบางส่วนมีการนำเข้าในระบบราชการและระบบสวนสัตว์แต่มีจำนวนที่นำเข้ามาเกินบัญชีและจำหน่ายออกจนขบวนการเติบโต โดยเฉพาะเสือโคร่งที่เคยมีข่าว เนื่องจากมีผลประโยชน์จำนวนมาก ว่ากันว่าเฉพาะม้าลายที่นำเข้าพร้อมค่าขนส่งตกตัวละ 7 หมื่น แต่เมื่อส่งขายปลายทางที่จีนจะมีมูลค่าสูงถึง 7 แสนบาท

เรื่องนี้ยังน่าสงสัยว่ามีการอ้างว่าอธิบดีคนหนึ่งเป็นคนอนุญาต รัฐบาลต้องตรวจสอบว่า อธิบดีคนไหนเป็นคนอนุญาตให้นำเข้ามาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีค่าเซ็นต์ปลายปากกาหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือไม่

ขณะนี้รัฐบาลจีน มาเลเซีย และกัมพูชา สั่งให้เฝ้าระวังการนำเข้าม้าจากประเทศไทย ทั้งยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบม้าในฟาร์มแถบชายแดนที่มีพรมแดนติดกับไทยทั้งหมดด้วย เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้โรค AHS แพร่ระบาดไปยังม้าภายในประเทศตนเอง

นอกจากนี้ หลังจากเกิดโรคระบาดในม้าก็ยังไม่มีการเข้าไปดูแลเยียวยาความเสียหายจากรัฐบาลเลย เรื่องนี้มีคนเลี้ยงม้าได้รับผลกระทบจำนวนมากทั้งรายย่อยและรายใหญ่ บางฟาร์มมีม้าเสียชีวิตหลายสิบตัวพร้อมๆ กัน ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปเยียวยาดูแลผู้เลี้ยงม้าอย่างเต็มที่พร้อมๆ กับการพยายามป้องกันโรค ก่อนจะมีการนัดเคลื่อนไหวและชุมนุมใหญ่จากเครือข่ายคนเลี้ยงม้าทั่วประเทศที่กำลังรวมตัวกันเพื่อขี้ม้าเข้ากรุงเทพมหานคร

สอบถามข้อมูลและสัมภาษณ์เพิ่มเติม
-นายฆนาราม ศรีคัทธะนาม รองนายกชมรมม้าแข่งแห่งประเทศไทย 0872618055
-กลุ่มคาวบอย1800 จักกิตร์ จิตต์กระโทก 0895800392
-ประสานงาน 0951909931 ศุภชาติ สมมาตย์