‘แรมโบ้อีสาน’ลากไส้พรรคเพื่อไทย ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือในยามที่ลำบาก

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช.กล่าวที่จ.นครราชสีมาสีมา กรณีนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ นปช.ที่ระบุว่าตนเองสาบานต่อหน้าย่าโมแล้วว่าจะไม่เล่นการเมืองแต่ ณ ปัจจุบันมีชื่อเข้าร่วมพรรคกับกลุ่มสามมิตรและพรรคพลังประชารัฐนั้นว่า ขณะที่ตนกล่าวคำสาบานต่อหน้าย่าโมนายณัฐวุฒิฯได้มาฟังคำพูดของตนหรืออย่างไร ที่ผ่านมาตนเองได้ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมานานกว่า 5 ปีแล้ว และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยเห็นคุณค่าของตนเองและไม่เคยติดต่ออะไรมาเลยในยามที่ตนตกระกรรมลำบากตลอดระยะเวลา 4-5 ปี ตนลงพื้นที่มาตลอดไม่เคยทอดทิ้งประชาชน มาวันนี้ตนทนกระแสเรียกร้องให้กลับมาทำงานการเมืองจากประชาชนไม่ไหวประกอบกับมีผู้ใหญ่เห็นคุณค่าและอยากให้ตนกลับมาช่วยกันทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองและประเทศชาติ ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรเพราะเห็นว่า ณ วันนี้การเมืองนิ่งบ้านเมืองสงบสุขแล้ว

“ในเร็ววันนี้ผมจะไปจุดธูปบอกกับย่าโมว่าผมขออนุญาตถอนคำสาบานกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งเพื่อรับใช้ประชาชน ซึ่งผมก็เชื่อว่าย่าโมเข้าใจและไม่มีปัญหาเพราะผมคือลูกหลานย่าโมเป็นคนโคราชโดยกำเนิด ส่วนคนที่จะไม่เข้าใจและมีปัญหาคือคนที่ไม่อยากให้ผมกลับมาเล่นการเมืองและพยายามหาข้ออ้างมาโจมตีต่างๆนาๆ ผมจะกลับมาเล่นการเมืองแน่นอนและสามารถอธิบายเหตุผลให้ประชาชนเข้าใจได้ไม่ต้องมาห่วงหรือมาแคร์อะไรกับผม ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่ากลุ่มสามมิตรต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องและให้ คสช.สืบทอดอำนาจซึ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ นปช.ที่รักประชาธิปไตยนั้น นายสุภรณ์ฯกล่าวว่า ณ วันนี้ตนขอร้องให้ทุกกลุ่มทุกสีลืมเรื่องอดีตที่เจ็บปวดไปเสีย แล้วหันหน้ามาปรองดองร่วมมือหาทางออกให้กับประเทศชาติและสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและขอให้ทุกคนเห็นแก่แผ่นดินไทย ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเรา ฉะนั้นนับแต่วันนี้จงอย่าแบ่งแยกสีแยกกลุ่มกันอีกเลยทำอย่างไรประเทศชาติจะสงบสุข ทำอย่างไรบ้านเมืองจะเจริญและก้าวไปข้างหน้าได้พวกเรามาร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ดีกว่า.