อดีตกกต.สมชัย เผยเรื่องแปลกที่ ‘สมปราบ’ 2 วันก่อน ‘พปชร.’ ชนะเลือกตั้งซ่อมถล่มทลาย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเช้า 24 มิ.ย.2563 โดยมีรายละเอียด

เรื่องแปลกที่สบปราบ

สบปราบ เป็น 1 ใน 5 อำเภอ ของเขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดลำปาง ที่มีโอกาสได้ต้อนรับคณะของรองนายกรัฐมนตรี ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 สองวันก่อนวันเลือกตั้งซ่อม 20 มิถุนายน 2563 โดยแจ้งในวาระว่า เป็นการติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดลำปาง

น่าแปลกตรงที่ จังหวัดลำปาง ไม่ได้เป็น 1 ใน 29 จังหวัด ที่กรมบรรเทาป้องกันสาธารณภัย ได้ประกาศเขตภัยแล้ง โดยในภาคเหนือนั้น มีการประกาศภัยแล้ง ใน 9 จังหวัด คือ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ พิษณุโลก และตาก ไม่มี “ลำปาง” (การแถลงของ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย : ข่าวสำนักอิศรา 9 พ.ค. 2563)

น่าแปลกตรงที่ อ.สบปราบ ก็ไม่ได้เป็นอำเภอ ที่กรมชลประทานรายงานว่าได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา โดยมี อำเภอในจังหวัดลำปางที่กรมชลประทานเข้าไปช่วยเหลือ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำใน 8 อำเภอ ได้แก่ แม่พริก เถิน เกาะคา งาว วังเหนือ เมืองปาน แม่ทะ และ เสริมงาม ไม่มี “สบปราบ” (เอกสารข่าว press release กรมชลประทาน เรื่อง รองนายก “พลเอกประวิตร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำฯ)

การจัดประชุมวันนั้น ได้เชิญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจาก 3 อำเภอ คือ สบปราบ เถิน และเสริมงาม มาร่วมประชุม โดยทั้ง 3 อำเภอ จะมีการเลือกตั้งซ่อมในอีกสองวันข้างหน้า

คำถาม คือ พลเอกประวิตร ไปทำไม และเป็นการแอบแฝงใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการเพื่อประโยชน์ในด้านคะแนนเสียงการเลือกตั้งของผู้พรรคตนหรือไม่ และนี่การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความเหมาะสมกับการทำงานการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ชอบเอ่ยปากกันว่าถึงเวลาปฏิรูปการเมืองแล้วหรือไม่

สิ่งที่พลเอกประวิตรทำ ไม่แตกต่างจากนักการเมืองในอดีตที่พอขึ้นเป็นฝ่ายมีอำนาจในรัฐก็ใช้ตำแหน่งหน้าที่และกลไกรัฐสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้ง ตอดนิดตอดหน่อยให้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นมา สร้างความคึกคักมั่นใจให้ผู้เลือกตั้งว่าหากเลือกฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อยก็มีสิ่งต่างๆที่เคยมาเจอหน้าแล้วรับปากเอาไว้

ในมุมของกฎหมายย่อมเอาผิดได้ยากเพราะจะอ้างว่าไปในงานราชการ แต่ในมุมของการสร้างแบบอย่างทางการเมืองในยุคที่ฝันถึงการปฏิรูป พลเอกประวิตร ที่กำลังจะขึ้นสู่การเป็นผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ควรทำตัวเป็นแบบอย่างให้เห็นว่า นักการเมืองที่ดี เคารพกติกา ไม่ใช้อำนาจรัฐเพื่อเอาเปรียบผู้อื่นเป็นอย่างไร หรือท่านไม่ใช่คนประเภทนี้.