จบที่ศาล ‘ช่อ’ เอาจริงฟ้อง ‘บุญเกื้อ’ หมิ่นประมาท พร้อมเรียกเงินล้านชดใช้ค่าเสียหาย

นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้อง นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในคดีหมิ่นประมาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2563

คำฟ้องระบุว่าเมื่อระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค. 2563 คณะก้าวหน้าได้จัดโครงการ #MAYDAYMAYDAY เพื่อสนับสนุนศิลปินนักดนตรีอิสระที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในช่วงเวลารักษาระยะห่างทางสังคม โดยรายได้จากการระดมทุนเงินบริจาคระหว่างคอนเสิร์ต จะถูกส่งต่อไปให้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือความเดือดร้อนจากโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นเงินคนละ 3 พันบาท ภายใต้ชื่อกิจกรรมว่า “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” คณะก้าวหน้าได้รับเงินบริจาคจำนวนทั้งสิ้น 7,282,897.34 บาท และได้ทำการส่งมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากโควิด-19 จำนวน 2,427 คน

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2563 จำเลยในฐานะเจ้าของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” ได้ลงภาพและข้อความในเฟซบุ๊กโดยตั้งค่าสาธารณะ ทำนองว่า คุณช่อและคณะก้าวหน้ากลบเกลื่อนความผิดเรื่องอมเงินบริจาค อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ รายชื่อผู้ได้รับเงินมีพิรุธ สเตทเม้นต์ลวงโลก ตรวจสอบทางทะเบียนราษฎร์แล้วไม่พบว่ามีตัวตน จากข้อความดังกล่าว โจทก์มีชื่อเล่นว่าช่อ และเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะก้าวหน้า ซึ่งเปิดบัญชีรับเงินบริจาคสำหรับโครงการ การที่จำเลยใส่ความโจทก์และคณะก้าวหน้าต่อสาธารณชนว่าอมเงินบริจาค เป็นอาชญากรรมทิ้งร่องรอย และจัดทำบัญชีรายชื่อผู้รับเงินอันเป็นเท็จ ย่อมทำให้โจทก์และคณะก้าวหน้าได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ต่อมาวันที่ 29 มิ.ย. 2563 โจทก์ได้ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายชื่อผู้ได้รับเงินบริจาคและหลักฐานการรับ-จ่ายให้จำเลยทราบ และแจ้งให้จำเลยลบข้อความซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์และคณะก้าวหน้าดังกล่าว แต่จำเลยเพิกเฉย และใส่ความย้ำว่าโจทก์อมเงินหรือโกงเงินบริจาคของประชาชน ทั้งที่เมื่อโจทก์ชี้แจงต่อจำเลยอย่างเปิดเผยแล้ว จำเลยย่อมสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดได้ แต่กลับใส่ความโจทก์โดยมีวัตถุประสงค์ทางการเมือง การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอมต่อสาธารณะ จงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และขอใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ศาลอาญารับไว้ในสารบบเป็นคดีหมายเลขดำ อ.1732/2563 กำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 26 ต.ค. 2563 เวลา 13:30 น.