ด่วน!น้ำเริ่มล้นสปิลเวย์เขื่อนแก่งกระจาน คาดถึงตัวเมืองเพชรบุรี 7 ส.ค.นี้

6 ส.ค. 61 – โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี สำนักงานชลประทานที่ 14 รายงานการบริหารจัดการน้ำ เมื่อเวลา 06.00 น. ระบุว่า เขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำ 708.183 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่างทั้งหมด 710 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 99.74 % มีน้ำไหลลงในอ่างประมาณ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร เปิดระบายน้ำ 120.47 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 10.4086 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณฝนที่หัวงาน 5.2 มิลลิเมตร

เขื่อนเพชรบุรี ซึ่งรับน้ำจากที่นี่โดยตรง ขณะมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และได้เปิดระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี 127.51 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 11.0168 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเปิดน้ำเข้าระบบคลองส่งน้ำ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ไม่เกิน 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้ในตัวเมืองเพชรบุรียังปลอดภัยเพราะแม่น้ำเพชรบุรีในเขตเมืองสามารถรับน้ำได้ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นั่นก็แสดงว่ายังมีพื้นที่รับน้ำเหลืออยู่ แต่หากเขื่อนแก่งกระจานเพิ่มการระบายน้ำมากกว่า 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเมื่อใด เขื่อนเพชรบุรีก็จะต้องเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนมากขึ้นตามไปด้วย

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. น้ำในเขื่อนเพิ่มระดับขึ้น ทำให้น้ำชนสันปูนบริเวณทางน้ำล้น หรือ สปิลเวย์ ซึ่งจากรายงานพบว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มล้นสปิลเวย์ แม้เจ้าหน้าที่จะยังคงใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งพร่องน้ำก็ตาม ทั้งนี้ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี ลงพื้นที่เขื่อนแก่งกระจานระบุว่า น้ำจะล้นข้ามสปิลเวย์ในช่วงเที่ยงวันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อน้ำถึงความจุกักเก็บ 100% ก็จะพิจารณายกเครื่องสูบน้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่ และเมื่อน้ำเต็มความจุอ่าง มวลน้ำกว่า 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะถูกตัดไปยังระบบคลอง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะถูกพร่องไปยังเขื่อนเพชรบุรี ส่วนที่เหลือจะไหลไปตามคลองธรรมชาติ พื้นที่ลุ่มต่ำ

ทั้งนี้ ส่งผลกระทบประชาชนท้ายเขื่อน 5 อำเภอที่มีประกาศเตือน คือ อ.บ้านแหลม อ.เมือง อ.บ้านลาด อ.แก่งกระจาน และ อ.ท่ายาง โดยเฉพาะ ต.กลัดหลวง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่เป็นพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบเป็นจุดแรกๆ โดยเตือนให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และคาดว่ามวลน้ำจะถึงตัวเมืองเพชรบุรีภายใน 24 ชั่วโมงหรือวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.)

เมื่อเปรียบเทียบน้ำกักเก็บย้อนหลัง 3 ปี ของเขื่อนแก่งกระจานจะพบว่า ปี 2559 จะอยู่ที่ไม่เกิน 400 ลูกบาศก์เมตร ปี 2560 อยู่ที่ไม่เกิน 500 ลูกบาศก์เมตร แต่ในปี 2561 ระดับน้ำกักเก็บพุ่งสูงถึง 700 กว่าลูกบาศก์เมตร ต่อความจุอ่าง 710ลูกบาศก์เมตร ทำให้จะต้องเร่งระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนไปยังแม่น้ำเพชรบุรี เขื่อนเพชรบุรี เพื่อผันออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุดจึงอาจจะกระทบกับประชาชนริมแม่น้ำ และพื้นที่ลุ่มต่ำ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจระดับน้ำ บริเวณตลิ่ง มทบ.15 ตรวจสภาพเขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนเพชรบุรี คาดการณ์ระดับน้ำ พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ต่อไป

snamkhao99

This website uses cookies.