เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ มอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดอุดรธานี
โดยภาพรวมจากการสำรวจและรับแจ้งจากประชาชน พบข้อมูลประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน มีสถานะเป็นลูกหนี้นอกระบบ จำนวน 5.6 แสนคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เป็นหนี้นอกระบบทั้งประเทศ จำนวนกว่า 9 แสนราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนและเกษตรกรที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอ ต้องการกู้เงิน เพื่อความจำเป็นในการใช้จ่ายลงทุนประกอบอาชีพ หรือกู้ฉุกเฉิน เพื่อการศึกษาและรักษาพยาบาล โดยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ จึงกู้หรือหยิบยืมผ่านนายทุนนอกระบบ ที่ทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบ ไม่เป็นธรรม จนเกิดภาระทางกฎหมายและสูญเสียทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินทำกิน บ้านพักอาศัย หรือเครื่องมือทำการเกษตรและยังเกิดภาระทางการเงินที่ต้องผ่อนชำระหนี้เกินกำลัง พร้อมกับต้องพบกับการติดตามทวงหนี้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือทำให้อับอาย ซึ่งส่งผลต่อสภาวะจิตใจและคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว
ทั้งนี้ จากรายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทั้งประเทศปัจจุบัน สามารถร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงประนอมหนี้และปรับโครงสร้างหนี้กับทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้แล้ว รวม 209,538 ราย ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกันใช้มาตรการทางกฎหมายกับเจ้าหนี้นอกระบบ ผ่าน “ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน” ที่จัดตั้งขึ้น ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคและกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน ได้ร่วมกันดำเนินการและสามารถนำกลับมาซึ่งทรัพย์สินของประชาชน จากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นโฉนดที่ดินกว่า 7,000 ไร่ และรถยนต์จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำเป็นนโยบายว่า รัฐบาลปัจจุบัน มิได้ละเลยต่อปัญหาดังกล่าว โดยกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหาฐานรากและถือเป็นวาระสำคัญในยุทธศาสตร์ชาติ “ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม” ที่ต้องขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่องกันไป เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและให้ทุกคนสามารถลุกขึ้นยืนและเดินหน้าเข้มแข็งไปด้วยกัน โดยปัจจุบัน พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมาย ร่วมกันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบ ซึ่งกำลังดำเนินการร่วมกัน ทั้งมาตรการเจรจาไกล่เลี่ยและมาตรการทางกฎหมายควบคู่กันไปอย่างจริงจัง
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวชื่มชมและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่พยายามทำงานหนักร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำชับว่าอย่าโดดเดี่ยวประชาชน ให้ทุกฝ่ายใช้กลไกระดับภาคและจังหวัด สำรวจและรับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบที่ทยอยแจ้งเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ขับเคลื่อนแก้ปัญหาร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยประสานข้อมูลและทำงานร่วมกันให้เป็นผลอย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป ทั้งการไกล่เกลี่ยและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย พร้อมกันนี้ ให้ทยอยส่งคืนทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินทำกินให้กับประชาชนทั่วประเทศเป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมามีที่ดินทำกินของตนเองได้ดังเดิม
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพิธีส่งมอบโฉนดที่ดินกลับคืนให้กับประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 1,778 คน เป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 1,523 ฉบับ รวม 6,309 ไร่ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ ในทุกจังหวัด ได้กระทำพิธีมอบทรัพย์สินคืนให้กับประชาชน 2,287 คนพร้อมๆ กันทั่วประเทศในภาพรวม เป็นโฉนดที่ดินกว่า 7,000 ไร่ และรถยนต์จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
12 ธันวาคม 2566…
This website uses cookies.