ฤทธิ์พายุ ‘มังคุด’ เติมปริมาณน้ำเขื่อนใหญ่-กลางไว้ใช้หน้าแล้ง กลางต.ค.สิ้นฤดูฝน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอล ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 20-24 กันยายน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ขณะที่ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝนลดลง โดยมีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักใน 38 จังหวัด ซึ่ง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมบริเวณลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี , แม่น้ำน่าน จ.น่าน , แม่น้ำนครนายก จ.นครนายก และแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า จากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “มังคุด” รวมกับอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลทำให้เกิดน้ำไหลหลากในหลายพื้นที่และมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างขนาดใหญ่และขนาดกลางเกินกว่าร้อยละ 80 เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการจัดสรรน้ำช่วงหน้าแล้ง โดยได้กำชับและเน้นย้ำทุกหน่วยงานติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยของเขื่อนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

snamkhao99

This website uses cookies.