ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เปิดปริศนาคมนาคมยุคลุงตู่ที่คนไทยต้องรู้” เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เสียงค่อนแคะ ดูหมิ่นดูแคลนลุงตู่ว่าพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งไม่เข้าท่า กล่าวหาว่าลุงตู่ไม่รู้เรื่องรถไฟฟ้า และต่างๆ นานา มีคนถามผมมามากว่ามีความเห็นอย่างไร?
หากได้ติดตามบทความของผม จะรู้ว่าผมจะวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง ด้วยความเป็นธรรม อิงเหตุและผลพร้อมข้อเสนอแนะ ไม่แฝงประเด็นทางการเมือง แต่มุ่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้สนใจในประเด็นต่างๆ
ผมได้เกาะติดงานคมนาคมของรัฐบาลประยุทธ์มาตั้งแต่รัฐประหารในปี 2557 มาจนถึงรัฐบาลเลือกตั้งในปัจจุบัน มีความเห็นดังนี้
1.1 รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน
รถไฟฟ้าสายนี้ที่เปิดใช้ในเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นสมัยลุงตู่ มีผู้โดยสารน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แนวคิดการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลทักษิณ แล้วมีการดำเนินการต่อเนื่องมาในหลายรัฐบาล ลุงตู่ได้ใช้อำนาจตาม ม.44 แก้ปัญหาฟันหลอช่วงเตาปูน-บางซื่อได้สำเร็จ ช่วยให้ผู้โดยสารไม่เสียเวลาเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้า ทำให้จำนวนผู้โดยสารกระเตื้องขึ้นมา
1.2 รถไฟฟ้าสายสีเขียว
รถไฟฟ้าสายนี้ช่วงในเมืองหรือช่วง “ไข่แดง” เป็นการลงทุนและเดินรถโดยบีทีเอส แต่ช่วงต่อขยายไปชานเมืองเป็นการลงทุนโดยภาครัฐ แล้วจ้างให้บีทีเอสเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ ลุงตู่ใช้อำนาจตาม ม.44 ทำให้ค่าโดยสารถูกลง จากเดิมที่ต้องจ่ายอัตราสูงสุดถึง 158 บาท เหลือไม่เกิน 65 บาท เป็นการเปิดโอกาสให้คนชานเมืองได้ใช้รถไฟฟ้าเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ด้วยค่าโดยสารที่ถูกลง
2.1 รถไฟความเร็วสุงกรุงเทพฯ-หนองคาย
รัฐบาลอภิสิทธิ์ริเริ่มโครงการก่อสร้างเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงกับคุนหมิงของจีน โดยต้องการที่จะตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีน เพื่อก่อสร้างและบริหารรถไฟความเร็วสูงสายนี้ แต่ยุบสภาฯ เสียก่อน ทำให้โครงการคั่งค้าง ต่อมารัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้บรรจุโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางนี้ไว้ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะขัดรัฐธรรมนูญ มาถึงรัฐบาลประยุทธ์ ได้ตัดสินใจลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ให้จีนมาร่วมลงทุนด้วย เพราะถ้าจีนร่วมลงทุนด้วย เขาจะทำทุกวิถีทางไม่ให้โครงการนี้ขาดทุน เช่น พยายามสนับสนุนคนจีนให้มาเที่ยวไทยด้วยรถไฟความเร็วสูง ถ้าสมมติว่าคนจีนนั่งรถไฟความเร็วสูงเข้ามาวันละ 5,000 คน ปีหนึ่งเกือบ 2 ล้านคน ถ้าเขามาใช้จ่ายในเมืองไทยคนละ 50,000 บาท ก็จะมีเงินหมุนเวียนในประเทศถึงปีละ 1 แสนล้านบาท
2.2 รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
แนวคิดโครงการนี้มาจากแผนแม่บทรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง แต่รัฐบาลประยุทธ์ได้ปรับแก้เส้นทางให้เชื่อมโยงกับสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เป็นการเสริมศักยภาพให้กับโครงการ EEC และแบ่งเบาภาระการรับผู้โดยสารอย่างหนักของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นจะต้องรู้รายละเอียดทุกเรื่องโดยเฉพาะด้านวิชาการเชิงเทคนิคที่ไม่ได้เรียนมา แต่ไม่ได้หมายความว่านายกฯ ด้อยสติปัญญา หากนายกฯ จะต้องรู้รายละเอียดทั้งหมดทุกเรื่อง แล้วจะมี รมต.และผู้บริหารในแต่ละกระทรวงไว้ทำไม ความรับผิดชอบหลักของนายกฯ จึงอยู่ที่การกำกับดูแล ครม.ให้ทำงานสำเร็จตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องวัดคนที่ผลสัมฤทธิ์ของงานซึ่งเป็นไปตามสุภาษิต “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” ไม่ใช่อยู่ที่การ “ยกตนข่มท่าน”
12 ธันวาคม 2566…
This website uses cookies.