เรียบร้อย ‘เรืองไกร’ ซบพลังประชารัฐ หลังทิ้งทวน ชง ปปช.เชือด 20 ส.ส.หญิงเพื่อไทย

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว. )เปิดเผย ถึงกรณีมีรายชื่อเป็นกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณพ.ศ.2565 ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณปี 2564 เป็นเพียงอนุกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย แต่พอร่วมประชุมทางสำนักงบประมาณก็มาพูดคุยด้วย บอกไม่มีคนแม่นกฎหมายและสรุปได้เท่าตน เขาถามว่าทำไมไม่ขึ้นห้องใหญ่ ก็ชี้แจงไม่ได้เป็นกรรมาธิการ โดยพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยก็พูดว่า ไม่ได้เป็นกรรมาธิการทำไมไม่บอกเพราะจะให้โควต้าของพรรคภูมิใจไทย พอปีนี้จะมีการตั้งกรรมาธิการงบประมาณ ทางพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยทำงานด้วยกันในพรรคเพื่อไทยก็มาชักชวนให้มาช่วยดูการจัดทำงบประมาณก็ตอบไปว่าได้ เพราะเป็นคนทำงานไม่ได้มีอะไร

และในชั้นกรรมาธิการงบมองว่าถ้าอยู่เสียงข้างมากจะทำงานแล้วเกิดประโยชน์ เพราะถ้าอยู่เสียงข้างน้อยจะทำอะไรได้ไม่มาก และดูแล้วก็เพียงมาท้วงติงงบเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้นไม่ได้ต้องการทำอย่างจริงจัง ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดต่ออะไรมานานแล้ว เมื่อพรรคพลังประชารัฐเสนอมา ก็ยินดีทำงานให้สภาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือยัง นายเรืองไกรตอบว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะตอบ เพราะตอนนี้ขั้นตอนทางเอกสารยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเอกสารเรียบร้อย ก็จะเป็นสมาชิกพรรคอย่างสมบูรณ์

เมื่อถามว่าถือเป็นการย้ายขั้วหรือไม่ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ตอบว่า ไม่เกี่ยว ตนทำงาน อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ เพราะเป็นแมวที่จับหนูได้ทุกสี ถ้ามันทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ยืนยันเรื่องร้องเรียนต่างๆที่ตนดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ทั้งในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หรือใครในซีกรัฐบาล จะเดินหน้าต่อไปไม่มีการถอนเรื่อง และเท่าที่รู้สึกคนฝ่ายรัฐบาลเมื่อตนร้องไปไม่งอแงตีโพยตีตีพายตัดพ้อต่อว่าอะไร เขาก็ชี้แจงไปปกติ ต่างจากฝ่ายค้านที่พอร้องไปแล้วมีการโวยวาย

ถามว่าหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบในส่วนของรัฐบาล นายกฯ หรือคนอื่นๆเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ยังทำเหมือนเดิม ถ้าเห็นใครทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็จะตรวจสอบเหมือนเดิมทั้งในส่วนของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และในส่วนของงบกองทัพ จะตรวจสอบเหมือนที่ผ่านมา อย่างงบลับในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ก็จะให้ความสำคัญ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเรืองไกร ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สอบ ส.ส.สุภาพสตรีพรรคเพื่อไทยจำนวน 20 คน กรณีส่งจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีศาลอาญา โดยมีเนื้อหาในลักษณะที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 185(1) เพราะลงท้ายด้วยการใช้สถานะ ส.ส. โดยป.ป.ช. เคยชี้มูลนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำหนังสือในลักษณะแทรกแซงกระทรวงวัฒนธรรม จะเห็นว่า อาจมีลักษณะการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่คล้ายคลึงกัน.