ทนายนกเขา อัด ‘ประยุทธ์’ 8 ปีก่อปัญหา ยังทู่ซี้จะเป็นนายกฯต่อ

17 กุมภาพันธ์ 2566 นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ตีเนียน” ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจรัฐประหารออกแบบกลไก รธน. 2560 ซึ่งมีเป้าหหมายเป็นรัฐบาล แม้แพ้เลือกตั้งก็ตาม จนอยู่มา 8 ปีกลับเบล่อแก้ปัญหาของชาติอยู่ ก็ยังอยากเป็นนายกฯ

นายนิติธร หรือทนายนกเขา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ แสดงถึงการตีเนียนชัดเจน ตั้งแต่ตั้ง อ.วิชา มหาคุณ มาตรวจสอบคดีบอส อยู่วิทยา ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิต แล้วเก็บรายงานที่ลามไปถึงอดีต ผบ.ตร. บางคนเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซง แต่เก็บรายงานไว้เงียบเฉย ไม่ได้ตามต่อให้สังคมได้รับรู้ความจริง

กระทั่งมาถึงปัญหาทุนจีนสีเทา ซุกผลประโยชน์จากบ่อนการพนัน ก่ออาชญากรรม ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด แล้วยังพันไปถึงหมู่บ้านหรูบางโครงการของนักการเมือง แต่เรื่องนี้เงียบไปอีก ซึ่งเป็นการตีเนียนอีก

รวมทั้งชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เปิดโปงข้อมูลสาวโยงทุนจีนสีเทาสัมพันธ์ทั้งตำรวจ ทหาร นักการเมือง และข้าราชการ จนหลายกรณีเกิดความเสื่อมเสียต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีท่าทีเฉยแบบตีเนียนๆ อีก

นายนิติธร กล่าวว่า ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีตีเนียน โดยออกแบบ รธน. 2560 ให้เครือข่ายพล.อ.ประยุทธ์ แพ้เลือกตั้ง แต่ชนะการจัดตั้งรัฐบาล นั่นคงเป็นเพราะประเมินแล้วว่า ไม่สามารถแย่งเสียงจากเพื่อไทยได้ ดังนั้น แม้เพื่อไทยได้เสียงที่หนึ่ง แต่ด้วยกลไก รธน.ที่ออกแบบไว้จึงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้

“พล.อ.ประยุทธ์ ตีเนียนว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ รธน. 2560 ไม่ได้ออกแบบให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ชนะเลือกตั้ง แต่กำหนดเป้าหมายให้คนอย่างประยุทธ์ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น ทางการเมืองก็ไม่มีความสงบ ความขัดแย้งยังจะมีอยู่ตลอดเวลา”

อีกทั้ง ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการตีเนียนไม่ด้อยไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์ โดยในปี 2562 ความโลภในเสียงเลือกตั้งจึงทำให้โง่ หวังจะกวาดเสียงเหนือกว่าทุกพรรคจึงเสนอชื่อราชวงศ์ชั้นสูงเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยรักษาชาติ แต่ไปไม่ถึงฝั่งการเลือกตั้งต้องถูกยุบพรรค แล้วยังลามไปทำให้เพื่อไทยแตกยับ และเปิดช่องให้พรรคอนาคตใหม่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่เพิ่งตั้งพรรคขึ้นมาเป็นครั้งแรก

นายนิติธร กล่าวถึงพฤติกรรมของทักษิณ ว่า หน้าหนึ่งเป็นการต่อสู้เลือกตั้ง แต่อีกหน้าต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าเอาประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติ เมื่อมาถึงเลือกตั้งปี 2566 ทักษิณ ยังตีเนียนอีก เอาอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ออกมาสร้างแรงจูงใจ เรียกอารมณ์ความรู้สึกให้นักการเมืองมั่นใจในท่อน้ำเลี้ยงและกระสุนมีมากมาย ถึงที่สุดกลับแฝงด้วยเรื่องขอกลับบ้าน

“การตีเนียนของทักษิณ ทำให้สังคมเชื่อว่า ถ้าเพื่อไทยได้เสียงมากก็จะเอากลับบ้านได้ ซึ่งความจริงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะการกลับบ้านของทักษิณ ไม่เกี่ยวคะแนนเสียง แต่เป็นความชอบธรรมของกฎหมายบ้านเมือง ดังนั้น แรงตีกลับจะทำให้เพื่อไทยเสียหาย”

พร้อมกล่าวว่า การเลือกตั้งรอบนี้ยังจะมีความขัดแย้ง ถ้าเพื่อไทยได้เสียงมากยังจะยอมให้ 3 ป.เหมือนเดิมหรือไม่ และประชาชนที่เลือกมาจะยอมหรือไม่ นอกจากนี้ถ้า 3 ป. โดย พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร เป็นรัฐบาลเสียงข้่างน้อยจะยอมหรือไม่ ดังนั้น มวลชนแต่ฝ่ายจะเกิดการเผชิญหน้าส่อแตกแยก วุ่นวายไปโดยปริยาย

อีกทั้ง ขณะนี้กลไกการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ตีเนียนเหมือนกัน เมื่อมีผู้ร้องยื่นศาล รธน. กรณีการเลือกตั้งปี 2562 ไม่ชอบ รธน. แล้วผลจะกระทบไปไกลมาก ซึ่งจะสัมพันธ์กับการเลือกตั้งในอดีตและกำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากการเลือกตั้งปี 2562 คำว่า ราษฎรไปใช้ตามที่กฤษฏีกาตีความว่า ใช้ราษฎรทั้งหมดที่มีชื่อในทะเบียนบ้านมาคำนวณเขตเลือกตั้ง จึงแสดงถึงในทางการเมืองมีส่วนได้เสียเกิดขึ้น

“ความสัมพันธ์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกับราษฎรต้องผูกพันเป็นเงื่อนไขเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องนำราษฎรไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นปัญหา กรณีนี้จึงเป็นความจงใจของ กกต. ที่จะช่วยเหลือ หรือไม่ช่วยเหลือใคร แล้ว กกต.ชุดนี้ใครเป็นผู้แต่งตั้งเข้ามา”

นายนิติธร กล่าวว่า เมื่อ กกต.ทำให้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันแล้ว จึงไปถึงศาล รธน.ต้องวินิจฉัย แต่การกำหนดพื้นทีเมื่อปี 2562 ไม่สอดคล้องกับกฎหมายเลือกตั้ง ถ้าศาลบอกว่า รธน.ไม่ผิด แต่การไปจัดทำเขตเลือกตั้งขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง อันมีผลไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของ รธน. ดังนั้น ปัญหาใหม่จะเกิดขึ้น โดยการแบ่งเขตเลือกตั้งปี 2566 ต้องยุติลงก่อน เพื่อรอผลการวินิจฉัยของศาล

“หากศาลใช้เวลาในการวินิฉัยเดือนหนึ่ง เวลาการเลือกตั้งต้องขยับออกไป เพราะต้องมาแบ่งเขตใหม่ในแต่ละจังหวัดก็จะขยับออกไปอีก ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประโยชน์กับการเป็นนายกฯ รักษาการ”

นอกจากนี้ ระบุว่า หากมีผู้ร้องไปร้องว่า การเลือกตั้งครั้งปี 2562 ไม่เที่ยงธรรม ไม่โปร่งใส ถ้าศาล รธน.ชี้ว่า การนับคำนวณราษฎรเพื่อแบ่งเขตของ กกต.ไม่ถูกต้อง ย่อมคาดหมายถึงการเลือกตั้งปี 2562 คงออกมาเป็นโมฆะแน่นอน แล้วเลือกตั้งใหม่ก็เกิดขึ้นไม่ได้อีก ดังนั้น อำนาจจึงอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ เต็มรูปแบบในฐานะนายกฯ รักษาการ จึงเป็นการซ่อนรูปกลไกเพื่ออำนาจตีเนียน

ส่วนกรณี ม.112 กับการต่อสู้ของเยาวชนนั้น นายนิติธร กล่าวว่า ต้องทำให้เข้าใจตรงกันว่า ควรแบ่งออกเป็นสองประเด็นเพื่อความเข้าใจของสังคมได้ตามทัน คือ การต่อสู้คดี ม. 112 ต้องพิสูจน์ในศาลยุติธรรม กับการต่อสู้ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งเป็นกฎหมายอีกมาตรา ดังนั้น ถ้าหวังว่า ศาลจะพิจารณาการอดอาหารแล้วมาปล่อยตัวชั่วคราว จึงไม่ใช่การต่อสู้ที่ถูกต้อง

“พวกที่ตีเนียนอยู่เบื้องหลัง ที่อาศัยการขับเคลื่อนกับการต่อสู้ของเด็ก อย่าได้โหดร้ายกับเด็กให้มาก แต่ควรบอกให้เด็กได้เข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งเด็กจะได้ต่อสู้ได้ถูกต้องและมีทิศทาง ไม่ใช่ให้เด็กต่อสู้แบบเอากระดาษยัดใส่มือแล้วให้พูดบนเวที โดยขาดประสบการณ์การตัดสินใจต่อหน้ามวลชน จนส่งผลเกิดคดีกับเด็ก

นายนิติธร กล่าวว่า ถ้าจะบอกถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หรือจะปรับปรุง ม.112 เชื่อว่าพูดคุยกันได้ แต่ต้องมีเนื้อหาที่ชัดเจน มีผลคาดหมายได้มาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งจะไปทางไหน จะดีหรือไม่ดีต่อประเทศชาติในทุกมิติ

“แต่เพราะพวกที่อยู่ข้างหลัง ทั้งพรรคการเมือง นักวิชาการ กลุ่มทุนต่างชาติ ที่มีความต้องการสูงกว่าการปฏิรูปสถาบันและการแก้ไข ม. 112 คือ อยากล้มสถาบันกษัตริย์ แล้วมาอาศัยพลังของคนรุ่นนี้ในการขับเคลื่อน จึงทำให้ทุกอย่างเหมือนพูดคุยกันไม่ได้”

นายนิติธร กล่าวถึงไฟฟ้าที่ถูกผูกขาดกับทุนใหญ่รายเดียวแล้วครอบทับทุนรายน้อยไว้ว่า เมื่อสังคมขาดอำนาจต่อรอง และจะมั่นใจในยามสงครามประชาชนจะมีไฟฟ้าใช้ได้อย่างไร ดังนั้น การแก้กฎหมายเอื้อต่อทุนรายใหญ่รายเดียวครอบทุนรายน้อยเอาไว้ จึงควรพิจารณาด้านราคาที่จะกระทบกับประชาชน หรือในอนาคตมีการขายหุ้นให้ต่างชาติมาครอบครองพลังงานชาติ ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร

พร้อมกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงแต่เรื่องกฎหมายมีควบคุมอยู่ แต่ปัญหาคือ พวกคุณไปออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เขาผูกขาด หากเกิดปัญหาขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ไขได้หรือไม่ จะเจรจาค่าไฟฟ้ากับบริษัทผูกขาดให้ถูกลงได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ หรือเขาไม่ยอม แล้วจะทำอย่างไร แก้ได้หรือไม่ เอาแต่ตีเนียนเป็นนายกฯ ไปเรื่อยๆ

“พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจหวังจะแก้ปัญหาทักษิณ ก็ยังแก้ไม่ได้ บ้านเมืองจึงไม่สงบ แล้วยังนั่งเป็นนายกฯ บริหารประเทศอีก โดยอาศัย รธน.ที่เขียนมาเพื่อให้ตัวเองได้เป็นรัฐบาล ทั้งที่แม้แพ้เลือกตั้ง แต่ยังได้ตั้งรัฐบาล ซึ่งสูตรนี้ก็จะกลับมาอีก แล้วเพื่อไทยยังโง่คิดว่า แก้ รธน.ได้เอาสูตร 100 หารแล้วจะได้เปรียบ ทั้งที่กลไก รธน. ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เช่นนั้น”

นานิติธร กล่าวว่า เมื่อจุดสูงสุดของ รธน.คือ ให้ 3 ป.ตั้งรัฐบาลแล้ว ดังนั้น กองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จึงปั่นให้เอา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่เช่นนั้นทักษิณ จะกลับมาอีก หากเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยมาอันดับหนึ่งอีก เพื่อไทยก็ไม่ได้เก่งเลย

“ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แก้ไขอะไรไม่ได้เลย 8 ปีแล้วนะ พล.อ.ประยุทธ์ ทำไมสังคมยังเบลอ และยังตอบปัญหาในสภายังไม่ชัดเจน ไม่รู้เรื่อง ทำให้วนปัญหากลับมาอยู่ที่เดิมอีก”