‘ชัยธวัช-เลขาฯก้าวไกล’ ชำแหละรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ประชาธิปไตยอันมีประชาชนเป็นไม้ประดับ

ชัยธวัช ตุลาธน

22 สิงหาคม นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายในรัฐสภา ระหว่างกดารประชุมสองสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า เหตุผลที่สส.พรรคก้าวไกล ไม่สามารถเห็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ได้วันนี้ ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อตามที่มีการกล่าวหา แต่เหตุผลง่ายๆ เพราะเราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดต่อเจตจำนงประชาชนที่ได้แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการยุติรัฐบาล และการเมืองที่สืบทอดอำนาจจากรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พวกเราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ความพยายามสลายขั้วความขัดแย้ง แต่เป็นการต่อลมหายใจให้ระบอบคสช.วางไว้ และจะดำเนินสืบไป

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า หลายคนพูดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นักการเมือง พรรคการเมือง จำเป็นต้องกลืนเลือด จ่ายต้นทุนทางการเมืองมหาศาล โดยมีวาระประชาชน และวาระประเทศ เป็นตัวตั้ง ซึ่งราคาต้นทุนที่สังคมไทยต้องจ่ายให้กับการจัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ ประการแรก คือ ความหวัง ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 เคยเป็นวันแห่งความหวังของประชาชน ที่จะให้การเมืองไทยออกจากมรดกของรัฐประหารได้โดยสันติ เสียงของพวกเขาจะทำให้การเมืองไทยเดินหน้าสู่อนาคต

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ประการต่อมาคืออำนาจ ประชาชนเคยเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดคืออำนาจของประชาชน แต่เมื่อเขาออกไปใช้อำนาจของตัวเองในการเลือกตั้ง ปรากฏว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง กลับเป็นการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษที่อนุญาตให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิพอเป็นพิธี แต่จะไม่มีวันยอมให้อำนาจเป็นของประชาชนจริงๆ ประชาชนเพิ่งค้นพบว่าตอนนี้ประชาธิปไตยบ้านเรา กลายเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีประชาชนเป็นไม้ประดับ แต่ไม่ใช่เจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง และสุดท้ายคือความศรัทธา การตั้งรัฐบาลแบบพิเศษกำลังทำให้เราสูญเสียความศรัทธาในระบบรัฐสภา ทั้งที่เป็นพื้นฐานสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนหมดศรัทธาย่อมเป็นสัญญาณอันตรายต่อการเมืองของประเทศในอนาคต

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า ตนอยากฝากความหวังดีไปยังสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ว่าหัวใจของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา คือการปะทะกันระหว่างอำนาจประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งกับอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน วันนี้เรายังหาทางออกทางการเมืองไม่ได้ เราเห็นว่าทางออกจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อไม่ใช่การสลายขั้วอย่างผิวเผินด้วยการจัดตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว แต่ต้องเป็นระบบการเมืองที่วางอยู่บนฉันทามติของหลักการอำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน และเมื่อไหร่ที่เรายังสยบยอมหรือต่อลมหายใจให้กับระบบที่เราเรียกว่าประชาธิปไตย แต่ตอบไม่ได้ว่าประชาชนอยู่ตรงไหนในระบบนี้ เราจะไม่มีทางสลายความขัดแย้งหรือหาทางออกได้

“ผมทราบดีว่าประชาชนจำนวนมากนับล้านคนกำลังผิดหวัง โกรธ คับข้องใจ กับการเมืองที่เกิดขึ้น แต่ผมอยากเรียนทุกท่านว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา สะท้อนแล้วว่าสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่อาจยังเปลี่ยนไม่มากพอ ดังนั้น แม้ท่านจะไม่พอใจ รู้สึกผิดหวัง แต่ขออย่าหันหลังให้การเมือง เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ มามีส่วนร่วมทางการเมือง และเปลี่ยนแปลงให้ได้ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ทำให้อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของประชาชนจริงๆ” นายชัยธวัช กล่าว