12 ธันวาคม 2566 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ ได้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็ฯหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยมีเนื้อหาระบุดังนี้
“ชวน หลีกภัย ผู้ไม่เคยหลีกภัย”
นายหัวชวน ออกแรงสกัดกลุ่มของ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” ด้วยการเสนออภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มของ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์”เคยแสดงออกชัดเจนว่า ต้องการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
โดยนายหัวชวน ได้ฝากคำพูดไปยังกรรมการบริหารพรรคว่า อย่าให้ประชาธิปัตย์ ถูกนำไปเป็นพรรคอะไหล่ อย่าให้ใครเอาพรรคไปหากิน
“เราไม่ใช่เป็นพรรคอะไหล่ แต่เราเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาได้คะแนนน้อยมาก แต่ก็ต้องตอบแทนบุญคุณประชาชน ไม่ทรยศประชาชน ”
แต่หลังจากอภิสิทธิ์คนที่นายหัวชวนผลักดันออกมาสู้กับฝ่ายที่จะทำให้ ปชป.เป็นพรรคอะไหล่แพ้โหวต นายหัวชวนยังพบหลักฐานว่ามีการล็อกโหวต
ผลที่เกิดขึ้นในทันทีคือนายอภิสิทธิ์ประกาศลาออกจากพรรค
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า อภิสิทธิ์ คิดเรื่องการออกจากพรรคมาก่อนแล้วหรือไม่ คนระดับอดีตหัวหน้าพรรคและอดีตนายกฯ จะทำอะไรด้วยอารมณ์หรือทำด้วยความผลีผลามหรือ ?
ในขณะที่ผู้เฒ่าวัย 80 ยังคงยืนยึดอกรับสายฟ้าและพายุฝนด้วยการประกาศอย่างชัดเจนว่า
“ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องอยู่ เพราะเป็นหนี้บุญคุณพรรค …บุญคุณอันนี้ใช้ไม่หมด ผมต้องตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”
ชวน หลีกภัย คนที่อยู่ในช่วงปลายชีวิต ไม่ยอมทิ้งคนอื่นที่ลงเรือลำเดียวกัน
คำว่า นักการเมืองน้ำดี คือคนที่ตัดสินใจออกมาต่อสู้เพื่อคนส่วนใหญ่มิใช่หรือ?
ชวน หลีกภัย ผู้ไม่เคยหลีกภัย ฝากความหวังไว้กับคนที่คิดแต่จะหลีกภัย
ขอสดุดี นายหัวชวนผู้ไม่เคยหลีกภัย.