นายกฯห่วงสถานการณ์น้ำหลังฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ กำชับช่วยผู้ประสบภัยเต็มที่

เมื่อวันที่ 2 กันยายน พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่หลังฝนตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งเพิ่มขึ้น และทางการต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนเป็นการด่วน เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะไหลเข้ามาสมทบอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนวชิราลงกรณจะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 4-7 กันยายนนี้ และเขื่อนศรีนครินทร์จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 7-13 กันยายน ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่รับน้ำท้ายเขื่อนตามแนวริมลำน้ำ และพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำไหลหลากได้

พร้อมกันนี้ได้สั่งการไปยังจังหวัดเสี่ยงภัย คือ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เตรียมการป้องกันความเสียหายและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เช่น จังหวัดนครพนม อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอีก จึงขอให้ประชาชนในทุกพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำ โดยขนย้ายสิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ และสัตว์เลี้ยง ขึ้นที่สูงหรือสถานที่เหมาะสม

สำหรับปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม บึงกาฬ สกลนคร เพชรบุรี นครนายก ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี โดยหน่วยงานภาครัฐได้ผนึกกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือสามารถโทรติดต่อได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม.