‘โอ๊ค’ รอดยกแรก!ศาลอาญาฯยกฟ้องคดีฟอกเงินกรุงไทย ลุ้นอัยการอุทธรณ์หรือไม่

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 เวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 91 กรณีรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท จากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร และนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ บุตรนายวิชัย โดยมีการกล่าวหาว่าเช็คดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งจากการทุจริตในคดีที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานคร

ต่อมาเวลา 11.15 น. อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษา ยกฟ้องนายพานทองแท้ ไม่ผิดฐานฟอกเงิน เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่านายพานทองแท้จำเลยได้รู้ที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ โอนเข้าบัญชีว่านายวิชัยได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้แบงค์กรุงไทย

ซึ่งขณะที่รับโอนเงินจำเลยมีอายุเพียง 26 ปีและขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้ว ถึง 4,000 ล้านบาทโดยเมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาทแล้วคิดเป็น 0.00 25 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินดังกล่าว ขณะที่โจทก์นำสืบได้เพียงว่า ขณะที่รับโอนหุ้นในพานทองแท้เป็นบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตรและมีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายวิชัย เท่านั้น

สำหรับคำพิพากษานี้เป็นเพียงคำพิพากษาเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับว่า พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ซึ่งเป็นโจทก์ จะอุทธรณ์หรือไม่.