‘ชัยธวัช’ นำทัพก้าวไกล แถลงประจาน ส.ส. ไล่ฟ้องประชาชน ถามกลับหัวหน้าภูมิใจไทย ใครกันแน่ ‘กุ๊ย’

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.63 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวกรณี ส.ส. พรรคก้าวไกล, อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่, และประชาชนถูกฟ้องดำเนินคดีหมิ่นประมาทจากอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ว่าในฐานะที่ตนเป็นอดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เเละเป็นเลขาธิการพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน ขอยืนยันว่า การที่ ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้เป็น ส.ส. ในวันนี้ ก็เพราะพรรคอนาคตใหม่บอกประชาชนว่า ต้องการทำงานการเมืองรูปแบบใหม่ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทุกคะเเนนเสียงที่จากประชาชนล้วนเป็นเพราะจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. เคยลงสัตยาบันต่อประชาชนว่าจะไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ของพรรค

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่าดังนั้น กรณีที่มี อดีต ส.ส. ของพรรคย้ายไปสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตบนพื้นฐานของความไม่พอใจ เพราะการกระทำเหล่านั้น เป็นการตระบัดสัตย์ต่อประชาชน ต่อระบอบประชาธิปไตย เเละทรยศต่อเสียงของประชาชน

“เรื่องงูเห่าในสภาเป็นการทำลายระบบพรรคการเมือง ทำลายระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอย่างร้ายเเรง สิ่งที่อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กระทำ ต้องถามว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน หรือทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนกันเเน่ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้แทนราษฎร ในการนำกฎหมายโร่ฟ้องเพื่อปิดปากประชาชน ย้อนถามนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ก่อนหน้านี้ได้ตอบโต้อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งออกมาเปิดเผยคลิปเสียงการชวนให้ไปร่วมพรรค ว่าเป็นพฤติกรรมของกุ๊ย แต่การที่ ส.ส. ในพรรคมาไล่ฟ้องประชาชนตอนนี้ ต้องถามว่า ใครเป็นกุ๊ยกันเเน่’ นายชัยธวัช กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่าสำหรับพี่น้องประชาชนที่วิพากษ์ วิจารณ์ ติชม หรือโกรธต่อการกระทำของ อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แล้วถูกดำเนินคดี ขอให้เเจ้งมายังพรรคก้าวไกล โดยพรรคก้าวไกลพร้อมช่วยเหลือและจะเป็นกระบอกเสียงของประชาชน เพื่อต่อสู้กับ ส.ส. เหล่านั้น ที่ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน

การแถลงข่าวครั้งนี้ ยังมีผู้ถูกฟ้องร้องจากอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ มาร่วมแถลงข่าว โดย นิตยา รักษาภัย ประชาชน จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ถูก นายสำลี รักสุทธี ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ฟ้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหาย 2,000,000 บาท เนื่องจากไปแสดงความเห็นบนเฟซบุ๊กว่า ส.ส. สำลี ทรยศพรรคอนาคตใหม่

“ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่รักความเป็นธรรมและรักประชาธิปไตย เมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ลงพื้นที่จึงได้เข้าร่วมรณรงค์กับพรรคในการรับสมัครสมาชิกและทำกิจกรรมหาเสียง จนได้ นายสำลี รักสุทธี เป็นตัวเเทนผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ ด้วยพื้นฐานที่เห็นว่านายสำลีเป็นครูบาอาจารย์มาก่อน ก็คิดหวังว่านี่คือผู้แทนที่จะทำให้เราเงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน เเต่จากการกระทำล่าสุดของนายสำลี คือการได้ย้ายพรรคไปอยู่พรรคภูมิใจไทย เป็นการตระบัดสัตย์ ทรยศอุดมการณ์ทางเมือง เเละระบอบประชาธิปไตย ตระกูลของนายสำลีจะได้รับมรดกบาปครั้งนี้ เป็นตราบาปติดตัวชาวมหาสารคาม” เธอ กล่าว

ขณะที่ อดิศักดิ์ สมบัติคำ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ เขต 2 จ.มหาสารคาม กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดจากการกระทำของสำลี ซึ่งคนที่เลือกสำลีไปคือคนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่เลือกพรรคภูมิใจไทย ใครๆ ก็รู้ว่า คน 6 ล้าน 3 แสนเสียงเลือกพรรคอนาคตใหม่ เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค เเละในกรณีที่สำลีกล่าวหาตนว่าได้หมิ่นประมาทสำลีด้วยข้อความว่า “ขายตัว” ขอย้อนถามว่า การกระทำของสำลีเป็นการขายตัวหรือไม่ และย้ายไปพรรคภูมิใจไทยเพราะเหตุใด พร้อมยืนยันว่าการตั้งคำถามดังกล่าวนี้เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการตรวจสอบการกระทำของผู้แทนราษฎร

นายชัชชวาล อภิรักษ์มั่นคง อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ เขต 3 อ.น้ำพอง เเละกระนวน กล่าวว่า สิ่งที่เคยหาเสียงกับพี่น้องประชาชนคือปฏิญญาสำคัญที่ให้กับประชาชน เเต่สิ่งที่อดีต ส.ส. ของพรรคกระทำคือการย้ายพรรคไปสนับสนุนรัฐบาล เป็นการสนันสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นการสืบทอดอำนาจ ขัดเเย้งต่อเเนวทางนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการทรยศต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ เเละเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ กรณีฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย นอกจาก สำลี รักสุทธีแล้วยังมี โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี และมณฑล โพธิ์คาย อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ที่ฟ้องดำเนินคดีกับ เท่าพิภพ ลิ้มจิตกร ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ด้วย.