นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อค่ำวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้กำลังใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่โดยโพสต์ของนายสมชัยมีรายละเอียดดังนี้
ความคับแค้นครั้งนี้ จงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง
สี่ทุ่มเศษคืนวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ผมเปิดมือถือดูการถ่ายทอดสดการปราศรัยในช่วงท้ายๆที่ของคุณธนาธรกับมวลชนที่มาให้กำลังใจหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไปเมื่อตอนเย็น
ธนาธรไม่มีสีหน้าเคร่งเครียดยังพูดคุยกับมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มีลูกเล่นลูกฮาให้กองเชียร์ได้หัวเราะบ้างตบมือด้วยความพอใจบ้าง ให้คำมั่นสัญญาว่าการต่อสู้เพื่อสังคมยังจะไม่สิ้นสุด และพูดให้ความหวังว่าเราจะไม่กอดกันร้องไห้แต่ตื่นเช้าพรุ่งนี้เราจะร่วมกันแปรเปลี่ยนความคับแค้นให้เป็นพลังเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อไป
คนวัยเลย 60 อย่างผม เลยหวนคิดไปถึงเพลงที่นักเรียนนักศึกษาในรุ่น 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ร้องกันทุกครั้งที่มีการชุมนุมที่มีเนื้อเพลงว่า “ความคับแค้นครั้งนี้จงแปรเปลี่ยนเป็นพลังให้กล้าแกร่งดุจดังพายุโหม เราจะลุกขึ้นสู้ เราจะยอมสู้ตายแม้ชีวาจะวายเราก็จะพลี”
ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนแต่งหรือมาจากวงดนตรีใด จำได้ว่าจังหวะการร้องและตบมือจะเริ่มจากช้าและเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับสะสมกำลังในการต่อสู้ให้กึกก้องและรวดเร็วกระชับขึ้น
ธนาธรที่เคยเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ คงเคยร้องเพลงนี้ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เลยเอามาเป็นวลีปิดในการพูดกับมวลชนเมื่อคืน
ดีใจครับที่ธนาธรยังมีกำลังใจไม่ท้อถอย แม้ลึกๆจะเสียใจว่าเขาและเพื่อนไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้มีอำนาจตัดสินความเป็นไปของบ้านเมือง มองการลงมาทุ่มเททำงานการเมืองของเขาและเพื่อนเป็นความผิด มองการให้เงินกู้เป็นการครอบงำพรรคการเมืองขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้นายทุนมามีอำนาจเหนือการเมือง และกลายเป็นข้อหาสำคัญถึงขนาดยุบพรรคตัดสิทธิกรรมการบริหารและยังต้องมีคดีอาญาและยึดเงินจำนวนหลักร้อยล้านดังกล่าวมาเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองต่อไป
ธนาธรไม่ได้ผิดที่ให้กู้เงิน แต่ไม่อาจหยั่งรู้อนาคตได้ว่าประเด็นกู้เงินจะถูกดึงขึ้นมาหยิบเอามุมในกฎหมายมาทำร้ายตัวเขาและพรรคได้
เงินค่าปรับเงินที่อาจถูกยึดไม่น่าจะเป็นภาระมากมายสำหรับเขา โทษอาญาที่ถึงขั้นจำคุกถึงวันนี้คงไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวเพราะ“คุกขังเขาได้แต่หัวใจอย่าปรารถนา” สิบปีที่ถูกตัดสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งก็ไม่นานเกินไปสำหรับคนในวัยหนุ่มเช่นเขา
คนที่เห็นรอยยิ้มและคำพูดของธนาธรเมื่อคืน คงคิดเหมือนผมครับ
“ให้กำลังใจสู้ต่อไปครับธนาธร อีกสิบปีข้างหน้าเราจะมาดูความสำเร็จของคุณ”