นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ประเทศนี้มีความยุติธรรม”
สำหรับผมที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาทุกรูปแบบแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยตัดสินผมมาแล้วในอดีตจึงคิดว่ามีสิทธิจะพูด
เรื่องเงินกู้และหุ้นสื่อเป็นเรื่องที่คุณธนาธร ก่อขึ้นมาเองไม่ได้มีใครอื่นเกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อยหากความยุติธรรมของประเทศวัดเอาแค่ยุบพรรคอนาคตใหม่แล้วบอกว่าไม่มีความยุติธรรมผมว่ายังห่างไกลกับคำนี้มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่ผ่านการต่อสู้ทางความคิดของคนในประเทศอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา
คุณธนาธรต้องยอมรับว่าผิดพลาดไปกับสองเรื่องนี้เมื่อคิดว่าจะต่อสู้กับอำนาจรัฐควรเรียนรู้ที่จะป้องกันไม่ให้มีช่องโหว่แต่กลับเป็นว่า “ตกม้าตายเอาง่ายๆ” เสียเช่นนี้
เรื่องเงินกู้ผมเคยบอกไว้ให้ชาวบ้านฟังสั้นๆง่ายๆว่า เจ้าหนี้ที่ไหนก็ล้วนมีอิทธิพลทั้งสิ้น
ในทางธุรกิจหากไปกู้เงินธนาคารก็ต้องทำตามระเบียบเงินกู้ของธนาคารการครอบงำจึงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากไม่ทำตามเงื่อนไขเงินกู้
ในทางการเมืองเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้เงินจากหัวหน้าพรรคแล้วบอกว่าพรรคดำเนินการได้โดยอิสระไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของหัวหน้าพรรคซึ่งคือผู้ให้เงินกู้พรรคตัวเอง
แรงปรารถนาทางการเมืองของคุณธนาธรตอนนี้คงเข้าทำนอง“เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งเอากระดูกไปแขวนคอ” คดีคงตามแขวนคอมาอีกเป็นพรวนกระดิ่ง
การไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทยหากอยู่ไม่เป็นเย็นไม่พอรอไม่ได้มันพังมาแล้วทุกรายผมเคยว่าไว้แล้วเสียดายที่เอาไปใช้ผิดทาง
ผมยังเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าศาลยังคงเป็นสิ่งที่ประชาชนยึดมั่น มีพลังที่เข็มแข็ง ไม่อ่อนไหวไปกับพรรคการเมืองที่มีหัวหน้าพรรคทำผิดพลาด ด้วยความอ่อนประสบการณ์
ส่วนสถานการณ์ของพรรคที่ถูกยุบก็คงเป็นไปตามวิถีทางการเมืองที่เหมือน “ผึ้งแตกรัง”