‘ลุงกำนันสุเทพ’ ห่วงเยาวชนคนรุ่นใหม่ ชุมนุมอย่าทำผิดกฎหมาย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ มวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงการชุมนุมของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็ติดตามการชุมนุมของฝ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ด้วยความวิตกกังวลกันพอสมควร สิ่งที่ได้รับฟังจากประชาชนคือต้องการเห็นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยประชาชน ทุกฝ่ายยังเป็นพี่เป็นน้องกันกอดคอกัน ร่วมใจกันต่อสู้ฟันฝ่าวิกฤติทางเศรษฐกิจคราวนี้ไปด้วยกัน เพื่อพาชาติให้ปลอดภัย ให้ประชาชนทั้งหลายมีชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศคิด และเรื่องการแสดงออกที่กลายเป็นการชุมนุม ก็ได้แต่ภาวนาว่าทุกฝ่ายต้องทำกิจกรรมด้วยความมีสติ รู้ว่าควรจะทำอะไรแค่ไหนเพียงไร และก็ควรจะอยู่ในกรอบของกฎหมาย

นายสุเทพ กล่าวว่าการแสดงความคิดความเห็นของบ้านเมืองเรื่องสิทธิพลเมือง เรื่องอนาคตประเทศไทย เป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกได้ ไม่ควรจะไปปิดกั้นหรือรังเกียจเดียดฉันท์กัน แต่มีบางเรื่องที่ต้องละเว้น ผู้ที่จะแสดงออกซึ่งความคิดความเห็นต้องไม่ทำให้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เสียความรู้สึก ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ในแผ่นดินนี้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ประสงค์ที่จะเห็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปล่วงละเมิดหรือแตะต้อง สถาบันพระมหากษัตริย์คือความอยู่รอดของประเทศ คือความมั่นคงของประเทศไทย เชื่อว่าผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ในที่สุดก็จะระลึกและคิดได้ว่า เมื่อต้องการให้คนส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็คงจะไม่ทำอะไรที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของคนส่วนใหญ่

อดีตแกนนำกปปส. กล่าวต่อว่า สำหรับนักศึกษาที่ออกมาชุมนุมหลายครั้งหลายหน และกำลังจะดำเนินการต่อไป ตนเองก็เคยเป็นประธานสภานักศึกษา แต่อยากจะแชร์ประสบการณ์ว่า เคยจัดการชุมนุมระหว่างปี 2556 ถึง 2557 ยากลำบากมาก 204 วัน นอนกลางถนน แต่ที่ยากกว่านั้นคือการต่อสู้คดี โดนข้อหาก่อการร้าย โดนข้อหากบฏ กระทำผิด พ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร บุกรุกสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งตนเองลงทุนเป็นทนายความว่าความให้กับตนเองและพรรคพวก สู้คดีมาปีครึ่ง และยังไม่รู้ว่าคำพิพากษาจะออกมาเมื่อไหร่อย่างไร

“จึงต้องเตือนน้องๆ ว่า ให้คิดถึงเรื่องพี่ๆ ที่เคยจัดม็อบตั้งแต่ 14 ตุลาคมมาจนปัจจุบัน ต้องระมัดระวังอย่ากระทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเคารพเชื่อฟังปฏิบัติตาม หากกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองก็เข้าสู่กลียุค ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้มาก แต่ตราบใดถ้าต่อสู้ในกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญก็สามารถทำไปได้” อดีตแกนนำกปปส. กล่าวและว่า ส่วนกรณีรัฐบาลเตรียมเปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็นควบคู่กับข้อเสนอของสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุเทพ มองว่า สภาหรือรัฐบาลจะทำอะไรก็ทำไป ซึ่งเป็นทางออกหรือหนทางหนึ่งที่จะให้ฝ่ายนักศึกษาที่มีความคิดความเห็น จะได้มีเวทีพูดให้คนฟัง โดยเฉพาะคนที่จะมีบทบาทมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ คือฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายรัฐสภา ซึ่งตนเองเห็นด้วย และผู้ใหญ่เหล่านั้นก็ต้องเปิดใจให้กว้าง และนักศึกษาก็ควรเสนอความคิดที่เป็นระบบและสามารถปฏิบัติได้จริง.