‘จอม-นักข่าวลี้ภัยในสหรัฐ’ ส่งสารถึงคนไทยหลายแสนคน ที่คิดจะ ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’

นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ปัจจุบันลี้ภัยในประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab โดยมีรายละเอียดดังนี้

ถึงคนไทยหลายแสนคน ที่คิดจะ”ย้ายประเทศกันเถอะ”

กระแสความสนใจที่จะย้ายประเทศขณะนี้ แม้จะทำให้ได้เห็นความเป็นไปในประเทศที่เจริญแล้ว หรือประเทศที่พัฒนาก้าวหน้ากว่าไทย ผ่านชีวิตและมุมมองของคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะพูดแต่เฉพาะผลสำเร็จ หรือผลพวงจากความทุ่มเทบากบั่น จนมีทุกอย่างพร้อม เปลี่ยนสถานะจากคนปากกัดตีนถีบเป็นผู้มีเงินถุงเงินถังแล้ว

ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดทางสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองได้เปล่งประกาย เฉิดฉาย สร้างตัวตนให้คนอื่นเห็นถึงผลของการดิ้นรนจนสายตัวสายใจแทบขาด ให้ตัวเองรู้สึกภาคภูมิใจและมีตัวตนในสังคม

แน่ละการพูด การแสดงออกแต่เฉพาะผลของความสำเร็จของตัวเองที่ก้าวข้ามความทุกข์เข็ญจากประเทศไทยมาได้ อาจจะเป็นการสร้างแรงจูงใจสำคัญ ให้กับคนที่ได้ยิน ได้ฟัง

แต่อยากฝากคนไทย หรือเด็กเยาวชนไทยที่คิดและวางแผนจะย้ายประเทศอย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่า อย่ามองแต่ปลายทางที่เห็นแต่ความงดงามในความสำเร็จของคนไทยในต่างประเทศแต่เพียงอย่างเดียว

เพราะเบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้น มันเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานที่เกิดจากการทุ่มเททำงานชนิดที่เรียกว่าสายตัว หรือสายใจแทบขาดลงไปเลยทีเดียว

หลายความสำเร็จต้องแลกมาด้วยหยดเลือดและน้ำตา ต้องแลกมาด้วยการล่มสลายของครอบครัว ต้องใช้ชีวิตอย่างอดทนถึงขั้นสูงสุดชนิดที่เรียกว่าแสนสาหัสเกินจะบรรยาย ซึ่งความลำบากยากเข็ญของการเริ่มต้นชีวิตในต่างประเทศแบบที่ว่านี้ น่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ในต่างประเทศต้องเผชิญ

ยกเว้น พวกนายทุน ศักดินา ข้าราชการชั้นสูงที่มีทุนหนาบารมีเยอะจากเมืองไทยอยู่แล้ว อาจไม่ต้องดิ้นรนอย่างที่ว่านี้มากมายนัก แต่ส่วนใหญ่คนพวกนี้ก็ไม่คิดจะย้ายประเทศกันอยู่แล้ว เพราะพวกเขาต้องการใช้ชีวิตที่อยู่อย่างเหนือกว่าใครในเมืองไทยจะดีกว่า

แต่สำหรับชนชั้นกลาง ลงมาถึงระดับล่างหากจะย้ายประเทศจริง ๆ ก็จะต้องเจอกับความยากลำบากแบบที่ว่ามานี้

เพราะต้องเข้าใจว่า ทุกตารางนิ้วในประเทศที่เจริญแล้วที่เปิดกว้างรับคนจากทุกประเทศทั่วโลก ย่อมเต็มไปด้วยการแข่งขัน แย่งชิง

ความเป็นคนไทยที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร ไม่เคยถูกกดขี่ข่มเหง หรือแม้กระทั่งต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับประเทศเจ้าอาณานิคม และโดยเฉพาะการที่ต้องโตมากับอุดมการณ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยแล้ว การจะสลัดเอาสิ่งเหล่านี้ออกจากหัวไม่ใช่เรื่อง่าย บวกกับนิสัยขึ้เกรงใจ ไม่กล้าเถียง ไม่กล้ายืนยันเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และโดยเฉพาะภาวะอึดอัด ตับข้องใจกับการสื่อสารที่มีข้อจำกัด ก็ยิ่งจะทำให้ถูกผลัก หรือถูกกันออกไปให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง ชั้นสาม หรือเป็นคนชายขอบในสังคมประเทศอื่นได้โดยปริยาย อย่าคิดว่าประเทศเสรีประชาธิปไตยทั้งหลายจะไม่มีชนชั้นนะครับ (เพียงแต่ว่าความตรงไปตรงมาของกฎหมาย ทำให้เส้นแบ่งของชนชั้นมันไม่ชัดเจนเหมือนในประเทศไทยเท่านั้นเอง)

แต่ก็ไม่แน่สำหรับเยาวชนไทยรุ่นใหม่ อาจมีความคิด ทักษะ และศักยภาพมากขึ้นแล้วในการอยู่ร่วมกับคนหลากหลายวัฒนธรรม หลากหลายความคิดความเชื่อมากกว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้วก็ได้

ดังนั้นคำแนะนำสั้น ๆ สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องย้ายประเทศก็คือ ขอให้ลบอัตลักษณ์ตัวตน หรือหัวโขนทั้งหมดทั้งปวงที่มีในประเทศไทยออกไป ให้ทำตัวเป็นเหมือน แก้วเปล่า หรือถังเปล่าที่พร้อมจะตักเติมเพิ่มน้ำใหม่เข้ามาได้ตลอดเวลา และต้องไม่แคร์ว่าจะตักตวงน้ำเหล่านั้นด้วยวิธีใด ขอให้ได้น้ำเพื่อก่อกำเนิดชีวิตใหม่ในต่างแดนได้ก็เป็นพอ

อีกเรื่องที่อยากทิ้งเป็นข้อคิดไว้ คือขณะที่พวกคุณกำลังหาช่องทางเพื่อผละหนีจากแผ่นดินเกิด ก็ให้พึงสังวรณ์ย้อนกลับไปมองด้วยว่า ยังมี เยาวชนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พวกเขาก็มีความฝันเช่นเดียวกับพวกคุณ แต่แทนที่พวกเขาจะผละหนีจากแผ่นดินเกิด พวกเขากลับใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อต่อสู้กับอุปสรรคขัดขวางในการสร้างประเทศ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เฉพาะเพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนไทยทุกคนรวมถึงลูก ๆ หลาน ญาติพีน้องของพวกคุณที่ยังอยู่ในเมืองไทยอีกด้วย

ขณะที่พวกคุณกำลังวางแผนคิดจะย้ายประเทศ ขอให้เสริมเติมพลังและให้กำลังใจเยาวชนที่เสียสละเหล่านี้ด้วย และหากพวกคุณสามารถลงหลักปักฐานอย่างมั่นคงในประเทศอื่นได้แล้ว ก็ควรที่จะหนุนเสริมเพิ่มพลังให้พวกเขาได้สร้างบ้านสร้างเมืองของพวกเราทุกคน ให้เป็นประเทศที่พวกคุณและพวกเราจะได้อยู่ในแผ่นดินเกิดอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีอนาคตที่ดี มีความหวังกับการเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลกต่อไป