พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวง เพื่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต กลุ่มเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ พ.ศ.2565-2569 เมื่อ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า วันนี้เป็นการลงนามร่วมกัน 7 กระทรวง เพื่อดูเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง และเข้าเชิงลึกให้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องเตรียมความพร้อมคนของเรา คนไทยจะต้องมีส่วนร่วมในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นภาระของครอบครัว มีอาชีพที่สามารถดูแลตัวเองได้ วันนี้ต้องใช้หลายอย่างขับเคลื่อน โดยต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่พูดวันนึง ทำวันเดียวเลิก “พูดไปก็แค่นั้น ต้องดูที่การกระทำดีกว่า ว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ทุกคนที่อยู่กับผมก็ร่วมกันทำมาหลายปีแล้ว ก็ต้องดูว่าผลงานสำเร็จอะไรไปแล้วบ้าง เราคาดหวังว่าถ้าเราทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะ ถ้าได้ทำก็ทำต่อเนื่องไป สานต่อสิ่งที่มันสำเร็จ และสิ่งที่กำลังใกล้สำเร็จ หรือที่ยังไม่สำเร็จ ทุกคนรู้ปัญหาดีหมด ไม่ว่าใครจะออกมาพูด รู้ปัญหาประเทศไทยหมดทุกคนนั่นแหละ แต่มันอยู่ที่จะทำอย่างไร How to do ? คือสิ่งสำคัญ จะทำได้หรือไม่ วันนี้สิ่งที่ผมต้องขอบคุณคือ คนไทยทั้งประเทศที่ร่วมมือกับเรามาโดยตลอด หลายอย่างมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่หลายอย่างอยู่ในขั้นตอนที่ต้องแก้ไข เพราะเราเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ผมขอกราบเรียนว่าการทำงานทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด ไม่ใช่นายกฯ เก่งที่สุด มันไม่ใช่นายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรี ข้าราชการทุกคน นั่นคือทีมงาน จะต้องร่วมมือกันในทุกมิติ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า หลายๆอย่างเราพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่จะสำเร็จได้มาง่ายๆ เราต้องผจญปัญหาฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ทำไมถึงพูดอย่างนี้ เพราะตนอยู่มาหลายปี และรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น เราก็พยายามป้องกันที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก ในสิ่งที่ทำให้ประเทศเราพัฒนาช้าไป ก็พยายามอย่างเต็มที่อย่างยิ่งยวด หน้าที่นายกฯมีตรงไหนก็ทำตรงนั้น โดยคณะทำงานทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างหลังตน เป็นผู้ที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และติดตามกำกับดูแลร่วมมือกับพี่น้องข้าราชการทั้งหลาย ต้องให้กำลังใจกัน ถ้ามัวแต่ตำหนิต่อว่ากัน คนทำมันก็หมดกำลังใจ ตนก็ได้แต่บอกว่าอย่าท้อแท้แล้วกัน สิ่งเหล่านี้คือความท้าทายของประเทศไทย
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ยังมีปัญหาอยู่อะไรก็แล้วแต่ หรือยังเดินไปข้างหน้าไม่ได้ หรือทำไม่เสร็จ ทำไม่ได้นั่นคือความท้าทาย เป็นการท้าทายกับประเทศไทย และคนทั้งประเทศว่าท่านจะได้ หรือท่านจะไม่ได้ ประเทศไทยจะดีขึ้น หรือไม่ดีขึ้น ทุกคนร่วมรับชะตากรรมกันหมด ถ้าเราไม่รักกัน ไม่ร่วมมือกัน เหมือนอย่างที่ตนบอก ตนรักทุกคน และพยายามทำให้ทุกคน ดังนั้นขอให่ช่วยกัน สื่อต่างๆก็ช่วยกันนิดนึง ก็เห็นอยู่แล้วว่ามันขัดแย้งกัน ก็มีตัวอย่างอยู่แล้ว ขัดแย้งมาก ขัดแย้งน้อย มันเกิดอะไรขึ้นกับประชาชนในประเทศ ตนไม่ต้องการให้อะไรมันเกิดขึ้นทั้งสิ้น
