นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิจารณ์การจัดตั้งสำนักงานท้องถิ่นอำเภอว่าจะทำให้การความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นๆและเป็นการรวมอำนาจให้มาอยู่ในส่วนกลาง โดยระบุว่า กลไกการทำงานของสำนักงานท้องถิ่นอำเภอไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่นๆหรือขัดแย้งระหว่างองค์กรเดิมกับองค์กรใหม่อย่างแน่นอน แต่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือหน่วยงานอื่นๆให้สามารถทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำนักงานท้องถิ่นอำเภอเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับอปท.ในทุกมิติและเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุน ประสานงานและให้คำแนะนำปรึกษาแก่อปท.มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการให้บริการสาธารณะ รวมทั้งการนำนโยบายของส่วนราชการต่างๆไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนประเด็นการจัดตั้งสำนักงานท้องถิ่นอำเภออาจกลายเป็นการรวมอำนาจให้มาอยู่ในความคุมของกระทรวงมหาดไทยหรือส่วนกลาง ซึ่งอปท.ทั่วประเทศมีมติคัดค้านนั้น นายสุทธิพงษ์ ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีแนวคิดการรวมอำนาจตามที่อปท.เกิดความกังวล เนื่องจากการจัดตั้งสำนักงานท้องถิ่นอำเภอเป็นการดำเนินการตามหลักการแบ่งอำนาจ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มอบหมายให้สำนักงานจังหวัดและอำเภอดำเนินการในภารกิจด้านต่างๆซึ่งปฏิบัติงานใกล้ชิดกับ อปท. ช่วยเป็นข้อต่อเชื่อมโยงสะท้อนปัญหาหรือความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ส่งผ่านมายัง อปท. เพื่อให้ได้รับการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องตรงประเด็นและดำเนินการได้อย่างทันท่วงที
“เรื่องดังกล่าวไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญฯที่บัญญัติให้กระจายอำนาจแต่อย่างใด เนื่องจากผลของนโยบายการกระจายอำนาจไปยัง อปท. แม้ว่าจะทำให้กระทรวงและกรมในระบบราชการบริหารส่วนกลางมีแนวโน้มที่จะมีภารกิจเนื้องานที่เริ่มลดน้อยลง แต่ภารกิจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นซึ่งเป็นเพียงส่วนราชการเดียวของประเทศที่มีหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริมและพัฒนา อปท. ทั่วประเทศ จะต้องวางระบบการให้คำปรึกษา สนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของ อปท. ให้มีความเข้มแข็งพร้อมรองรับกับภารกิจที่จะเพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและความสลับซับซ้อนของเนื้องานในอนาคต
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ดำเนินการศึกษาวิจัยในการออกแบบวางระบบการทำงานของสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอร่วมกับกลุ่มนายอำเภอ กลุ่มผู้บริหารอปท. กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน ที่เป็นการทดลองการดำเนินการในพื้นที่ 4 ภาค 8 จังหวัด คือ เชียงราย อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ตราด อุบลราชธานี มุกดาหาร สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ที่มีระยะเวลาการศึกษาวิจัยถึง 6 เดือน ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ร. ที่กำหนดไว้ ซึ่งกลุ่มทดลองเห็นว่า การจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอจะช่วยสนับสนุน อปท. ในพื้นที่ในการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลและส่วนราชการต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่กระทบต่อภาระด้านงบประมาณและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำลังเพราะไม่ได้รับการจัดตั้งเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคตามกฎกระทรวง
