ป.ป.ส.เผยปีนี้สกัดจับ ‘ยาบ้า’ 300 ล้านเม็ด แก๊งค้าผลิตเพิ่ม2-3เท่าตัว

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด( ป.ป.ส.)กล่าวว่า ศูนย์ปฎิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยเกิดจากความร่วมมือของ 6 ประเทศ ตั้งแต่ปี 2559-2561 ซึ่งหลังจากเปิดศูนย์ฯและมีความร่วมมือทางการข่าวทำให้ทุกประเทศมีสถิติการจับกุม สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์รวมทั้งยาเสพติด ทั้งยาบ้าและไอซ์ได้เพิ่มขึ้น ในช่วง 3 ปีสามารถจับกุมยาเสพติดได้กว่า 1.1 ล้านกิโลกรัม โดยตั้งแต่ต้นปี 2561 ถึงเดือนกันยายนสามารถจับกุมยาบ้าได้ถึง 300 ล้านเม็ด ซึ่งสูงกว่าปี 2560 ที่ทั้งปีจับกุมได้ 214 ล้านเม็ด ส่วนยาไอซ์ปี 2560 จับกุมได้ 5,000 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันผลการจับกุมอยู่ที่ 15,000 กิโลกรัม

ทั้งนี้จากข้อมูลการข่าว พบว่ามีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในปริมาณที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่เขตปกครองพิเศษของกลุ่มว้าทั้งที่เมืองยอน ปางซาง แม้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะมีศักยภาพการจับกุมเพิ่มแต่กลุ่มผู้ค้าก็ยังมีการผลิตทดแทนเพิ่ม 2-3 เท่าตัว และพยายามหาสารเคมีตัวใหม่มาแทนสารเคมี และสารตั้งต้นที่ถูกจีนและไทยสกัดไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยมีนักเคมีชาวใต้หวันเข้ามาร่วมผลิต สำหรับยาไอซ์ถูกลักลอบส่งไปจำหน่ายทางใต้ก่อนจะออกไปประเทศที่สาม ขณะที่ยาบ้าร้อยละ 80 จำหน่ายให้คนไทยก่อนจะกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง กทม.และปริมณฑล

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้รถปิคอัพขนมาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และเช่าโกดังเก็บในพื้นที่ภาคเหนือ จากนั้นจึงใช้รถสิบล้อขนต่อมาพักไว้ในพื้นที่ภาคกลาง โดยซุกซ่อนมากับพืชผลทางการเกษตร เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และให้รอดจากการถูกตรวจค้น ซึ่งเครือข่ายใหญ่ผู้ค้ายามี 30 เครือข่าย แต่สามารถทลายเครือข่ายไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง โดยยอมรับว่าชนเผ่าที่ค้ายามีศักยภาพสูงและมีความเชื่อมโยงกันในหลายประเทศ