‘อ.ยักษ์’ ไม่กังวลหากถูกปรับออก ลั่นเดินหน้าค้านสารเคมีพาเกษตรกรหลุดพ้นหนี้สิน

เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังระบุเลยว่าใครเป็นคนลือและปล่อยข่าว ส่วนนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สอบถามว่าไปพบนายกฯเรื่องนี้แล้วหรือ ตนยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายกฯย้ำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและการทำงานภายในกระทรวงก็ดีขึ้นมาก มีหนักใจตรงว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นจะไม่สำเร็จ โดยเฉพาะการทำเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งนายกฯย้ำเสมอว่าจะต้องทำให้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายจะทำให้ได้ 5 ล้านไร่ เพราะวันนี้เกษตรกรเป็นหนี้สินจำนวนมาก

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ข่าวที่จะปรับ ครม.นั้น มีการวิเคราะห์กันมากมาย แต่อย่าไปซีเรียส ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะถูกปลดเพราะคัดค้านการนำเข้าสารเคมีเพื่อการเกษตรนั้น การจะทำเกษตรอินทรีย์จำเป็นต้องคัดค้านสารเคมีทุกชนิดอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะสารเคมีอันตราย 3 ชนิดคือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เพราะวิธีการทำเกษตรแบบอินทรีย์นั้นสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องสร้างความเข้าใจให้เกษตรกร ถือเป็นเรื่องยากและหนักใจที่สุด จึงคิดว่าตนไม่น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะหน้าที่ของตนคือ การพาเกษตรกรออกจากหนี้สิน

“ไม่น้อยใจถ้าโดนปรับออก ผมจะไปน้อยใจทำไม เพราะตั้งใจจะมาช่วยนายกฯปีหนึ่ง นี่ก็จะครบปีอยู่แล้ว อยู่ข้างนอกผมก็ทำอย่างเดียวกันนี้ เพียงแต่อยู่ข้างในทำได้มากขึ้น ผมได้ลาออกจากราชการไปทำสิ่งเหล่านี้ ถ้าต้องกลับไปทำในสถานะเดิมผมจะน้อยใจทำไม ไม่มีปัญหาอะไร และในการประชุมครม.แต่ละครั้งนายกฯไม่ได้ว่าอะไรผม แต่กลัวว่าจะถูกว่าทำงานไม่ได้ผลสักที จึงไม่กังวลว่าจะถูกปรับออกหรือไม่ เพราะตั้งใจจริงที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ถ้าให้ออกก็สบายขึ้น ถ้าอยู่ก็ทำงานเหมือนเดิม ข่าวที่ออกมาไม่ได้ทำให้รู้สึกท้อและไม่มีเหตุผลที่จะลาออกเมื่อตั้งใจเข้ามาช่วยแล้วจะช่วยให้ถึงที่สุด แต่การจะอยู่หรือไปนั้น อยู่ที่นายกฯคนเดียว”นายวิวัฒน์ กล่าว

รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากถ้าจะให้คะแนนของตัวเอง แต่เชื่อว่าในช่วงนี้การทำงานทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และต้องขอบคุณผู้ปล่อยข่าวว่าจะถูกปลด เพราะหลังจากนั้นสื่อก็ช่วยเหลือจนทำงานได้ง่ายขึ้น ส่วนเรื่องพาราควอต เรายืนยันว่าจะเอาเรื่องสุขภาพมาก่อน แต่อยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ซึ่งนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ ซึ่งบ่นอยู่ว่าเครียด