สทนช.เตือนอิทธิพล ‘มังคุด’ ฝนถล่มภาคเหนือ-อีสาน18-19ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 18 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 04.00 น. พายุโซนร้อน “มังคุด” (MANGKHUT) บริเวณประเทศจีนมีศูนย์กลางบริเวณเมืองคุนหมิง ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณมณฑลยูนนาน ประเทศจีนวันนี้ โดยช่วงวันที่ 18-19 กันยายน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักเกิดขึ้น ประกอบกับ ช่วงวันที่ 19-20 กันยายน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักใน 37 จังหวัด ซึ่ง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันตกมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมบริเวณลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี แม่น้ำน่าน จ.น่าน แม่น้ำนครนายก จ.นครนายก แม่น้ำบางปะกง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงทรา และคลองพระปรง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ปราจีนบุรี-บางปะกง ว่า ให้เร่งระบายน้ำของระบบชลประทานในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก หลังคาดการณ์ปริมาณฝนที่จะตกต่อเนื่องในพื้นที่ โดยพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกต้องปรับแผนการระบายน้ำเพื่อแบ่งรับน้ำจากแม่น้ำในและแม่น้ำนครนายกให้กระทบต่อพื้นที่น้อยที่สุด และการบริหารจัดการพื้นที่ทุ่งรับน้ำ