นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในรายการ‘หัวใจไม่หยุด ‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ‘นายณัฐวุฒิใสยเกื้อ’ และยูทูบ’นายณัฐวุฒิใสยเกื้อOfficial’ ช่วงหนึ่งถึงพรรคเพื่อไทยว่าสถานการณ์ในพรรคเพื่อไทยไม่ว่าใครจะอธิบายยังไงแต่ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้าภาพที่สะท้อนออกมาคือความขัดแย้งอยู่แล้วล่ะครับ
เดี๋ยวนี้มีกรรมการกิจการพิเศษขึ้นมาอีกคณะหนึ่งก็เลยอลเวงกันไปใหญ่( ‘ลุงเหลิม’ ตั้ง‘คณะกรรมการกิจการพิเศษ’ จ่อซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์)
เมื่อพรรคขาดความเป็นเอกภาพพลังในการขับเคลื่อนทางการเมืองจึงสะดุดติดขัดไปด้วย
ผมไม่เห็นด้วยนะครับถ้าใครจะบอกว่าการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่นเป็นเรื่องที่คุณหญิงสุดารัตน์ต้องรับผิดชอบหรือถ้าหากต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วล้มรัฐบาลไม่ได้คุณเฉลิมต้องรับผิดชอบ
ไม่จริงอ่ะครับมันต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งพรรคในทุกเรื่องทุกสถานการณ์
เวลานี้ดูเหมือนว่าในพรรคเพื่อไทยจะจ้องมองกันอยู่ว่ากรรมการบริหารคิดยังไงกรรมการยุทธศาสตร์คิดยังไงกรรมการกิจการพิเศษคิดยังไง
โดยลืมไปหรือเปล่าครับว่าภาพทั้งหมดที่ออกมาประชาชนเขาจะคิดยังไง
-เพราะเพื่อไทย’หัวใจคือประชาชน’
พลังของฝ่ายประชาธิปไตยเขายังคาดหวังความเข้มแข็งของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนหลักต่อสู้เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมานะครับ
แต่ถ้าเดินหน้าด้วยภาพความขัดแย้งอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆผมว่ากองเชียร์ก็ลำบากใจลองนึกภาพถ้าหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
โดยเฉพาะถ้าถูกยุบด้วยข้อหาล้มล้างการปกครองในวันที่21 มกราคมนี้สถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรคจะเผชิญกับมรสุมใหญ่ทางการเมืองตามมาอีกหลายระลอก
หันไปที่พรรคเพื่อไทยก็ยังมีภาพและข่าวความขัดแย้งเกิดขึ้นตลอดเวลาหาคำตอบกันให้ได้นะครับว่าประชาชนเขาจะคิดยังไง
ผมก็ไม่ได้แน่มาจากไหนล่ะครับก็เป็นอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยเหมือนกันนี่แหละเพียงแต่เห็นว่าสถานการณ์ในปี2563 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอย่างยิ่ง
ดังนั้นบทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายค้านจะต้องเป็นที่คาดหวังของประชาชนให้ได้.