หลังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กเนื่องในวันสตรีสากล เมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาโดยมีเนื้อหาดังนี้ “เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2563 ดิฉันขอกล่าวถึงสตรีทุกคน ในฐานะที่เป็นเพศหญิงซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ แต่ดิฉันเชื่อว่ายังมีอีกไม่น้อยที่มีความเข้มแข็งเพียงแต่ถ้ามีโอกาสที่เท่าเทียมกัน
ดิฉันขอสนับสนุนความเท่าเทียม และความเท่าเทียมนี้จะมีส่วนเสริมสร้างประชาธิปไตย และความเสมอภาค ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมควรสร้างเพื่อส่งต่อให้กับเยาวชน #GenerationEquality เพราะถ้าเราคือผลผลิตของสตรีรุ่นก่อนหน้าที่พยายามสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมฉันใด เยาวชนรุ่นหลังก็คือผลผลิตของผู้ใหญ่ในปัจจุบันที่เป็นส่วนสร้างสังคมในปัจจุบันฉันนั้น
สิ่งที่ผู้ใหญ่และคนในสังคมสามารถทำเพื่อคนรุ่นหลังได้
ก็คือ การสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมแบบไม่เลือกปฏิบัติ ต่อคนทุกเพศ ทุกวัย และประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม”
ต่อมานายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ ได้แชร์โพสต์ของนางสาวย่ิงลักษณ์ พร้อมโพสต์ข้อความระบุว ผมไม่ใช่ทั้ง “เสื้อแดง” และ “เสื้อส้ม” และที่แน่ๆก็คือไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไปแล้ว
ผมขอแชร์เพจนี้เนื่องใน “วันสตรีสากล”
เหตุผลทางหลักการประชาธิปไตยง่ายๆและชัดเจนก็คือ “เธอ” ได้ประกาศ “ยุบสภา” เพื่อให้ประชาชนไปเลือกตั้งกันใหม่ ( 1 คน 1 เสียงเท่ากัน ) ในช่วงเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 แต่แล้ว “ไอ้” และ “อี” แห่ง กปปส.และพันธมิตรฯ ที่ยืนยันประกาศว่า “ปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง” กลับขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ยอมรับหลักการประชาธิปไตยดังกล่าว สร้างความวุ่นวายโดยประกาศว่า “ข้าคือรัฐฐาธิปัตย์” “ข้าคือกวีภิวัฒน์” จนกระทั่งกลายเป็นการเชื้อเชิญให้ คสช.ออกมากล่าวคำว่า “งั้นกูยึดอำนาจ” แล้วก็สร้างความหายนะทั้งในเชิงหลักการและโครงสร้างที่บิดเบี้ยวมาจนทุกวันนี้
ชัดเจนนะครับ ไม่ชัดเจนก็ไม่เป็นไร”