ส.ส.เป้-เสรีรวมไทย ชี้สถานการณ์ของรัฐบาลขณะนี้อยูในภาวะ ‘ไม่ไหวจะเคลียร์’

แฟ้มภาพ

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา หรือ “เป้” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์เฟซบ๊กเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้

สถานการณ์ของรัฐบาลขณะนี้อยูในภาวะ “ไม่ไหวจะเคลียร์” หลังปรากฏหลักฐานมีคนใกล้ชิดรัฐบาลส่อร่วมขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย โดยไม่สนใจชะตากรรมของคนไทยด้วยกัน

หลังจากสังคมสงสัยกันมานานแล้วว่า ทำไมหน้ากากอนามัย จึงหายไปจากท้องตลาดหรือต้องซื้อหาด้วยราคาที่แสนแพงทั้ง ๆ ที่รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไทยมีโรงงานผลิตได้เดือนละกว่า 30 ล้านชิ้น วันนี้ได้ปรากฎหลักฐานชัดเจนแล้วว่า มีคนที่ทำงานใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำหน้ากากอนามัยไปกักตุนเอาไว้ ก่อนนำไปขายต่อทั้งในและต่างประเทศด้วยราคาที่แพงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว

ซึ่งแน่นอนว่า บุคคลเหล่านี้ ย่อมไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง ต้องมีกระบวนการที่มีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนมีอำนาจในการอนุมัติโควต้า รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้รัฐบาลจะมีนโยบาย ห้ามส่งออกไปนอกประเทศแต่ในที่สุดก็ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการซิกแซกเอาหน้ากากอนามัยไปสต๊อคเอาไว้กว่า 200 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการกระทำในลักษณะหากใครมีเส้นมีสาย หรือสนิทสนมกับคนในรัฐบาล ก็สามารถร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการนำสินค้าไปกักตุนได้

“ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจ” คนไทยด้วยกันเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่ทุกคนกำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับภัยไวรัสโควิด19 ที่กำลังขยายพื้นที่แพร่ระบาดมากขึ้น เพราะไม่มีหน้ากากให้ประชาชนซื้อหามาใส่ โดยที่รัฐบาลก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่กลับปรากฎว่า มีขบวนการของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคนใกล้ชิดรัฐมนตรี สามารถนำหน้ากากมากักตุนและนำไปจำหน่ายต่อได้จนสร้างผลกำไรมหาศาล จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการแสวงหาผลประโยชน์บนสถานการณ์ความเป็นความตายของประชาชน

ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะต้องไม่ลืมว่า นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะไม่ยอมทนให้รัฐบาลที่ไร้ความสามารถอยู่บริหารงานอีกต่อไป เพราะเท่ากับว่า นอกจากจะไม่สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนมีหน้ากากอนามัยได้สวมใส่อย่างเพียงพอแล้ว ยังกลับมีข่าวว่ามีคนใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนเสียเอง หากผู้นำรัฐบาลไม่กล้าจัดการขั้นเด็ดขาด ก็เชื่อว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์เองนั่นแหละ ที่จะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้แม้กระทั่งกองเชียร์ที่เคยเชียร์รัฐบาลนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็ประกาศเลิกเชียร์กันหมด เพราะสถานการณ์รัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะ “ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ”