‘จตุพร’ วอนหยุดเล่นการเมือง แนะสามัคคีร่วมปฏิบัติตามมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล


เมื่อวันที่  22 มี.ค. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวีเวทีทัศน์ ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่งดให้ประชาชนมาร่วมสังสรรค์ เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล

นายจตุพร กล่าวว่าสถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้การต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 เป็นเดิมพันของประเทศไทยชีวิตคนไทยและอนาคตของรัฐบาลหลายวันผ่านมาผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนล้วนทำหน้าที่กันเต็มที่จึงขอคนไทยอยู่กับความเป็๋นจริงโดยปฏิบัติอย่างเดียวกันกับมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาแม้ไม่เห็นด้วยก็ตามหากมาตรการล้มเหลวต้องเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล

การแถลงวันนี้มีคนติดเชื้อถึง 188 รวมยอดทั้งหมด 599 คน ดังนั้นโควิด-19 ลุกลามจนยากจะควบคุมกันได้จนทำให้สภาพจิตใจของคนไทยย่ำแย่ลงอย่างมากเมื่อผนวกกับการกักตุนหน้ากากจนขาดแคลนยิ่งทำให้หมดความเชื่อมั่นรัฐบาลอย่างมาก

“คำว่าเจ็บแล้วจบกับเจ็บๆคันๆของมาตรการยกระดับกันไปเรื่อยๆกับการแก้ปัญหานี้ แม้บอกเปิดห้างสรรพสินค้า 12 เม.ย. แต่ผมเชื่อว่าเม.ย.ยังแก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่ได้อีกทั้งสภาจะเปิดสมัยประชุมพ.ค. โรงเรียนจะเปิดมิ.ย. ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเปิดได้ซึ่งไม่มีอะไรยืนยันว่าการระบาดของโควิด19 จะยุติเมื่อไร”

นายจตุพรย้ำว่าเรื่องโควิด-19 ต้องไม่เป็นเรื่องการเมืองและในสถานการณ์นี้ ควรเลิกเล่นการเมือง เพื่อร่วมกันหาทางออก และเมื่ออำนาจอยู่กับรัฐบาลต้องตัดสินใจ หากผิดพลาดก็อยู่ไม่ได้เช่นกันเนื่องจากโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ใหญ่กว่าเรื่องการเมืองและคนไทยมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยเกิด หวั่นวิตกไปทั่ว จนทำให้สถานการณ์ทางจิตใจเลวร้ายมาก

อีกทั้งรัฐบาลต้องตระหนักว่าประชาชนมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องแถลงถึงมาตรการต่างๆให้ชัดเจนและครบถ้วนรวมถึงงบประมาณอะไรไม่จำเป็นต้องวางไว้ก่อนเพราะไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่าการแก้ไขปัญหาโควิด-19 อีกแล้ว 

“มาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญรัฐบาลต้องคิดทำสงครามกับการให้คุณภาพชีวิตคนจะอยู่ได้อย่างไรต้องเจรจากับกลุ่มทุนให้ลดกำไรลงรวมทั้งต้องออกมาตรการช่วยครอบครัวในช่วงตกงานกัน” 

นายจตุพรระบุว่าในสถานการณ์ขณะนี้หน้าที่ของรัฐบาลต้องทำเรื่องโควิด-19 อย่างเดียวงบประมาณต้องใช้แก้ไขปัญหาอย่างเดียวการทำงานต้องไม่มีวันหยุดและคนไทยต้องปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล

สำหรับการตรวจไวรัสโควิด-19 นั้นอุปกรณ์การแพทย์ของรพ.ศิริราชสำหรับตรวจไวรัสเพียง500 บ. รัฐบาลต้องให้งบประมาณเพื่อให้คนได้ไปตรวจขอรัฐบาลอย่าไปเพิ่มภาระให้ประชาชนอย่างไม่จำเป็นตลอดจนนายกรัฐมนตรีควรแถลงให้เป็นเรื่องๆเพื่อคลายความวิตกกังวลของประชาชน

“ถ้าพรุ่งนี้ตัวเลขคนป่วยพุ่งพรวดมากไปกว่าวันนี้จะเกิดความโกลาหลซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ดังนั้นมาตรการต่างๆรัฐบาลต้องตัดสินใจดีๆหากผิดพลาดรัฐบาลต้องรับผิดชอบเมื่อการป้องกันคนภายในเป็นเรื่องยากถ้ามาตรการป้องกันคนที่มาจากภายนอกไม่ได้อีกการจัดการภายในก็ยิ่งลำบากสิ่งที่น่าห่วงคือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 แล้วไปในที่ชุมชน” 

ถ้ารัฐบาลยังคิดเป็นเรื่องปกติกันอยู่ว่าการประชุมครม.ต้องรอวันอังคารแล้วคงเป็นเรื่องบ้าที่สุดเพราะโรคไวรัสระบาดไม่ได้รอหยุดเสาร์-อาทิตย์ดังนั้นการประชุมครม.อย่ารอแค่วันอังคารเราต้องฉีกออกจากกรอบเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อทำสงครามกับโควิด-19

นอกจากนี้ตนขอให้กำลังหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่กลไกรัฐทั้งหมดรวมทั้งคนเกี่ยวข้องต้องขอขอบคุณหมอพยาบาลซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่หนักสำหรับการแถลงแต่ละครั้งนั้นต้องตรงไปตรงมาบอกความจริงกับประชาชนให้ครบถ้วนแม้การประกาศแล้วทำให้เกิดความวิตกกังวลก็ตามแต่รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมกันไปด้วยความระมัดระวัง

รวมทั้งย้ำทิ้งท้ายว่าในสถานการณ์ไทยขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ต้องเป็นความสามัคคีกันเพราะถ้าไปคนละทิศทางก็ไม่มีวันฟันฝ่าหรือข้ามพ้นไวรัสโควิด-19 ได้เมื่อเราต้องการชนะคือทำให้คนไทยรอดให้ได้ต้องร่วมปฏิบัติตามมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล