‘ปิยบุตร’ แนะผู้มีอำนาจ ยังพอมีเวลา อย่าตัดสินใจผิดพลาด จนไม่อาจย้อนกลับมาแก้ไขได้อีก

ภายหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ในคดีที่ทอัยการได้ยื่นฟ้องพวกจำเลยทั้ง 18 คน ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า “การจับกุมคุมขังไม่สามารถเปลี่ยนความคิดพวกเขาได้ มีแต่ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เท่านั้น จึงจะรักษาประชาธิปไตย รักษาสถาบันกษัตริย์ และรักษาเยาวชนอนาคตของชาติ”

นายปิยบุตร โพสต์ ว่า “จะชอบหรือไม่ชอบ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันนี้ มีเยาวชนอนาคตของชาติ อย่างน้อยๆก็หนึ่งรุ่น หนึ่ง generation ที่มีทัศนคติต่อสถาบันกษัตริย์ไม่เหมือนคนรุ่นก่อนๆ และคนเหล่านี้ก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นตามยุคสมัย

การนำ “อนาคตของชาติ” ไปขัง จำนวนมากๆ ไม่มีทางที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ ทำเช่นนี้รังแต่จะเพิ่มความไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

ผู้มีอำนาจมีทุกสิ่งทุกอย่าง กลไกรัฐ อาวุธยุทโธปกรณ์ อำนาจรัฐ ทรัพย์ศฤงคาร มากมายเกินคณานับจนพวกท่านอาจคิดว่า ไม่ว่าอย่างไร ก็ปราบปรามเยาวชนอนาคตของชาติได้สำเร็จ

ใช่ พวกท่านอาจทำสำเร็จ แต่ความสำเร็จเช่นว่าจะมีประโยชน์อันใดเล่า หากทำให้เยาวชนอนาคตของชาติจากรุ่นสู่รุ่นมองพวกท่านเป็นศัตรูของพวกเขาไปตลอดกาล

นี่ไม่ใช่การปรองดอง สมานฉันท์ แต่มันคือการปราบปรามจนไม่คิดว่า อนาคตของชาติเหล่านี้คือเพื่อนร่วมชาติ

เราต้องการสังคมไทยแบบนี้หรือ?

มีแต่การสร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อสนทนาพูดคุยเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา หาทางออกเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เท่านั้น ที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้คลี่คลายได้

ปล่อยตัว “อนาคตของชาติ”

ยุติการใช้ 112/116 เป็นเครื่องมือปิดปาก

ยกเลิก 112

แก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆที่เพิ่มพระราชอำนาจจนอาจไม่สอดคล้องกับระบอบ Constitutional Monarchy และจนโน้มเอียงไปทาง Absolute Monarchy

มีแต่หนทางเหล่านี้เท่านั้น ที่จะดึงเอาเยาวชนอนาคตของชาติกลับมา ให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดอนาคตประเทศไทย ประเทศที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ประเทศที่พวกเขาต้องอยู่อาศัยกับพวกท่านไปอีกนาน

ยังพอมีเวลา อย่าตัดสินใจผิดพลาด จนบานปลายและไม่อาจย้อนกลับมาแก้ไขได้อีกเลย”