อดีตบิ๊กพศ.คอตก!เข้าเรือนจำ ศาลไม่ให้ประกันตัวคดีเงินทอนวัด

2 ส.ค.61 – ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตเงินทอนวัด ประกอบด้วย 1.นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) 2.นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.การสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดสมุทรสงคราม 3.นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรี 4.นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ พศ.

5.นายบุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง 6.นายชยพล พงษ์สีดา อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ 7.นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครปฐม 8.นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร ผอ.กลุ่มการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ พศ.มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ส.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติม และรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือจากกองทะเบียนประวัติอาชญกร

โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากผู้ต้องหามีหมายจับหลายคดี และมีพฤติการณ์อาจหลบหนี

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายณพล ใบเงิน ทนายความกลุ่มผู้ต้องหา เปิดเผยหลังศาลรับคำร้องฝากขังว่า ญาติของนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ยื่นหลักทรัพย์ 800,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง โดยมีผู้ต้องหาที่ยื่นขอปล่อยชั่วคราวอีก 2 ราย ประกอบด้วยนางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ พศ. และนายแก้ว ชิดตะขบ อดีตนักวิชาการศาสนา กองพุทธศาสนศึกษา ญาติได้ยื่นหลักทรัพย์ 400,000-500,000 แสนบาท ส่วนผู้ต้องหารายอื่นเท่าที่ทราบหลักทรัพย์ยังไม่เพียงพอ จึงไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทราบว่านายบุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา พศจ.ลำปาง และนายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา พศ. อีก 2 รายมายื่นประกันเพิ่มเติมภายหลังด้วย รวมเป็น 5 ราย

จากนั้นเวลา 17.15 น. ศาลอ่านคำสั่งการประกันตัวของผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย

โดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามคำร้องฝากขังแล้วเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกับวัดสมคบกันวางแผนโดยอาศัยฐานะความเป็นเจ้าหน้าที่ของ พศ.อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการจัด การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ให้กับวัดที่ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาสังกัดหรือตั้งอยู่ แล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็ให้วัดคืนเงินงบประมาณบางส่วนให้กับกลุ่มผู้ต้องหา อันเป็นการเบียดบังงบประมาณ พศ. จึงเป็นต้นตอทำให้เกิดความเสียหายแก่พุทธศาสนา

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาบางคนร่วมกระทำผิดในลักษณะนี้อีกหลายคดี พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งคดีมีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนก็คัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาอาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้องของผู้ต้องหาที่ยื่นประกัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพและทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป