เผยผลประมูลข้าวล็อตสุดท้าย 2.6 แสนตัน หมดปัญหาข้าวค้างสต๊อก

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ผลการประมูลข้าวในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2 ปี 2561 ปริมาณ 2.45 แสนตัน มีผู้ผ่านคุณสมบัติยื่นซองเสนอราคาซื้อทั้งสิ้น 20 ราย โดยมีผู้เสนอซื้อสูงสุด 5 ราย เป็นปริมาณข้าวทั้งหมดที่นำออกมาประมูลใน 18 คลัง ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 6,670 บาทต่อตัน คิดเป็นมูลค่ารวมจากการซื้อขายครั้งนี้กว่า 1,600 ล้านบาท ส่วนการประมูลข้าวกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2 ปี 2561 มีผู้ผ่านคุณสมบัติและยื่นซองเสนอราคาซื้อทั้งสิ้น 12 ราย โดยมีผู้เสนอสูงสุด 5 รายใน 20 ครั้ง ปริมาณทั้งหมดกว่า 22,300 ตัน ราคาเฉลี่ยขายอยู่ที่ 4,584 บาทต่อตัน มูลค่ารวมกว่า 114 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะรวบรวมผลการยื่นซองเสนอราคาทั้ง 2 กลุ่ม เข้าที่ประชุมคณะทำงานฯ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอประธานกรรมการ นบข. พิจารณาเห็นชอบต่อไป สำหรับการประมูลข้าวครั้งนี้เป็นการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลล็อตสุดท้ายและจะไม่เหลือข้าวคงค้างในสต๊อกอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เข้ามาบริหาร มีการนำข้าวสต๊อกออกมาระบายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557- ปัจจุบัน รวม 32 ครั้ง ปริมาณ 16.9 ล้านตัน มูลค่า 146,176 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขทั้งหมดที่มีการตรวจสอบในคลังสินค้าของ อคส.และ อตก. ปริมาณ 17.7 ล้านตัน ส่วนการทำสัญญาซื้อขายข้าวล่าสุด 30 สิงหาคม 2561 สามารถทำสัญญาไปแล้ว 15.9 ล้านตัน รับมอบแล้ว 12.6 ล้านตัน และยังคงเหลือรับมอบอีก 2.9 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้เป็นข้าวเพื่อการบริโภคปริมาณ 6.5 แสนตัน และหากมีปัญหาในการส่งมอบอาจจะเสนอ นบข.พิจารณาเพื่อนำออกมาประมูลอีกครั้ง