‘วิษณุ’ โต้เปลี่ยนรูปแบบไพรมารีโหวตช่วยพรรคใหม่ ยึดหลักสมาชิกพรรคมีส่วนร่วม

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตต่อระบบไพรมารีโหวตรูปแบบใหม่เป็นการเอื้อให้กับพรรคใหม่ว่า เป็นเช่นนั้น เพราะเราต้องการช่วยเหลือทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ พรรคใหญ่ และพรรคเล็กให้ได้ใช้อย่างเท่าเทียมกัน กระบวนการนี้ไม่ได้ประหลาดหรือพิสดาร เพราะเป็นกระบวนการที่สอดคล้องกับมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปตามคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บัญญัติขึ้น ส่วนจะผิดหรือถูก กรธ.เป็นเจ้าของเรื่องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการยกเลิกการทำไพรมารีโหวต เนื้อหาดังกล่าวยังคงอยู่ แต่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหลังจากการเลือกตั้งปี 62 เนื่องจากการทำไพรมารีโหวตอาจจะมีความยุ่งยาก เพราะเป็นของใหม่ ดังนั้น เราจึงถือหลักอย่างเดียวว่าให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม ส่วนจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนกรณีมีสื่อบางแห่งนำเสนอว่าอตนระบุห้ามเสียงออนไลน์ในช่วงนี้นั้น ขอชี้แจงว่าตนได้ระบุว่าในขณะนี้ยังทำไม่ได้ แต่เมื่อมีการปลดล็อกเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.นี้ พรรคการเมืองจะขึ้นป้ายหาเสียง หรือหาเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ หรืออะไรก็ตามทำได้ทั้งหมด แต่ขณะนี้อย่าว่าแต่หาเสียงทางไลน์เลย หาเสียงธรรมดาก็ไม่ให้ทำ โดยเราจะออกคำสั่งให้เพื่อปลดหรือคลายล็อกบางอย่างให้พรรคการเมืองสามารถติดต่อกับสมาชิกผ่านไลน์ หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ในขณะนี้จะติดต่อกับชาวบ้านยังไม่ได้ เพราะอย่างนั้นมันคือการหาเสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีกรณีที่บางพรรคการเมืองแอบแฝงหาเสียงจะดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า จะเอาผิดหรือไม่ให้เป็นไปตามประกาศคสช.ต่างๆ ที่มีอยู่ ส่วนจะมานั่งเจาะแต่ละกรณีว่าทำอย่างนี้ผิดหรือไม่ตนไม่ตอบ ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้พิจารณา

เมื่อถามว่า การประชุมใหญ่ของพรรค สามารถทำอะไรได้บ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า เลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แก้ไขข้อบังคับพรรค และรับสมัครสมาชิก สำหรับพรรคเก่าถ้าจะไม่แก้ข้อบังคับก็ใช้อันเดิมต่อไป ส่วนพรรคใหม่ กกต.ต้องขอดูข้อบังคับอยู่แล้ว แล้วจะทำอย่างไรให้โอกาสเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เป็นการเอื้ออะไรใครเลย โดยเฉพาะพรรคใหม่เขาต้องทำอยู่แล้ว คนจำนวน 250 คนเขามีอยู่แล้ว หลายพรรคการเมืองขออนุญาต คสช.ประชุมใหญ่และจัดกิจกรรมทางการเมืองไปแล้ว 70 ครั้ง คสช.อนุมัติไปประมาณ 40 ครั้ง

เมื่อถามว่า การที่พรรคการเมืองจะหาสมาชิก ต้องรอคำสั่ง คสช.ออกมาก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หาได้ เพราะเขาหากันมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยไม่เกี่ยวกับมาตรา 44 แต่ปัญหาคือ เมื่อหาแล้วยังไปรับสมัครสมาชิกไม่ได้ ต้องรอให้มีการประชุมใหญ่พรรคก่อน

เมื่อถามถึงเหตุผลของ คสช.ที่ไม่อนุญาตในบางกรณี เนื่องจากเกรงเหตุแทรกซ้อน ซึ่งขัดแย้งกับเหตุผลของฝ่ายความมั่นคงที่ระบุว่าสถานการณ์สงบ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนหมายถึงในอดีตมันมีเหตุแทรกซ้อน ซึ่งไม่ได้หมายถึงกบฏ หรือมีจลาจล เดินขบวนประท้วง แต่หมายความว่าเมื่อจะมีการจัดกิจกรรมอะไรขึ้นมาก็จะมีคนนั้นคนนี้เข้าไปถือโอกาสแค่ 3-5 คน มันก็คือการแทรกซ้อน จึงไม่อนุญาตให้จัด เป็นเรื่องธรรมดา พรุ่งนี้มะรืนนี้อาจจะเกิดแบบนี้ขึ้นก็ได้ อย่าคิดว่าเหตุแทรกซ้อนคือ การแห่ขบวนกันมา แม้แต่คนเดียวถือว่าเป็นเหตุแทรกซ้อนได้เช่นเดียวกัน

นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้หารือเตรียมความพร้อมในการพูดคุยกับพรรคการเมืองในรอบที่ 2 ในเดือน ก.ย.นี้ เพราะมีการพูดคุยกันในที่ประชุม คสช.แล้วว่าเมื่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.ประกาศใช้แล้วถึงค่อยพิจารณาเรื่องดังกล่าว