ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายชดเชยชาวนาจากปัญหาอุทกภัย ผ่านโครงการประกันภัยข้าวนาปี 61

เมื่อวันที่ 7 กันยายน นายนิพัฒน์ เกื้อสกุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี ประจำปี 2561 หลังจากเปิดให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือนเมษายน – 30 มิถุนายน 2561 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1.97 ล้านราย พื้นที่ 27.47 ล้านไร่ นับว่าเกือบถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 ล้านราย และพื้นที่เป้าหมาย 30 ล้านไร่ ลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยละ 99 เข้าร่วมโครงการ รัฐบาลจึงพอใจกับการเข้าร่วมโครงการของเกษตรกร ยอมรับว่าขณะนี้มีปัญหามรสุมเกิดขึ้นหลายพื้นที่ หากพื้นที่ใดได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้รีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน เพื่อให้คณะกรรมการระดับอำเภอเข้าไปตรวจสอบความเสียหายและจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรที่ทำประกันข้าวนาปี

นายนิพัฒน์ กล่าวว่า หากมีปัญหาอุทกภัยต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ธ.ก.ส.จะส่งเงินชดเชยสินไหมเข้าในบัญชีของเกษตรกร ยอมรับว่าภัยที่เกิดขึ้นหลายด้านช่วงนี้จะทำให้เกษตรกรมองเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยพืชผลมากขึ้น ยอมรับว่าปีต่อไปรัฐบาลอาจลดการชดเชยเบี้ยประกันลงบ้าง เพื่อให้เกษตรกรมีส่วนร่วมออกค่าใช้จ่ายเบี้ยประกัน เพื่อให้รู้สึกถึงความสำคัญต่อค่าใช้จ่ายที่ออก คาดว่ายังคงทำให้เกษตรกรทำประกันภัยปีต่อไปเหมือนปี 2561 เพราะรัฐบาลต้องใช้เงินชดเชยเบี้ยประกันสูงถึง 2,600 ล้านบาทในปี 2561 จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554, 2559 ทำให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการทำประกันมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงนี้อยากให้เกษตรกรไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการชดเชยสินไหม เพราะจะเร่งรัดให้จ่ายชดเชยอย่างรวดเร็ว

“สำหรับเบี้ยประกันภัยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 90 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 36 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 54 บาทต่อไร่ หากเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.จะได้รับการดูแลเบี้ยประกันให้ทั้งหมด โดยคุ้มครองภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ลมพายุ ทั้งหมด 7 ภัยธรรมชาติ วงเงินคุ้มครอง 1,260 บาทต่อไร่ และการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล 1,113 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงิน 2,373 บาทต่อไร่ และยังมีวงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่สำหรับศัตรูพืช”รองผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าว