วางแผนรับฝนระลอกใหม่ปลายเดือนก.ย.นี้ เขื่อนไหนน้อยกว่า60%ให้ฝนหลวงเติมน้ำ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง 1-2 วันนี้ อาจส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคกลาง เพราะฝนที่ตกทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆมีผลกระทบในภาพรวม เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำปราจีนบุรีในฝั่งตะวันออก จังหวัดหนองคายและนครพนมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณแม่น้ำโขงที่จังหวัดมุกดาหาร บึงกาฬ และอุบลราชธานีต้องเฝ้าระวัง ส่วนแม่น้ำเพชรบุรีที่มีน้ำล้นสปิลเวย์จากเขื่อนแก่งกระจาน ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงตามลำดับ แต่อาจยังคงท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ

ทั้งนี้ สทนช. ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ในจังหวัดกาญจนบุรี ต้องมีการบริหารจัดการน้ำควบคู่กัน แม้ว่าจะยังสามารถรองรับได้เพิ่มอีก 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่ม เนื่องจากช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม จะเกิดฝนตกขึ้นอีกจากอิทธิลมมรสุม อาจส่งผลให้อำเภอไทรโยค อำเภอหนองบัว และอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งจะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและประชาชนในพื้นที่ก่อนล่วงหน้า 3 วันเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงจัดการจราจรทางน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำ รองรับน้ำฝนที่อาจตกเพิ่มในอนาคตด้วย

สำหรับลุ่มเจ้าพระยาในพื้นที่ภาคกลางนั้น ได้ประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมชลประทาน ลดการระบายน้ำในเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ลงอีก หากฝนตกมาเพิ่มขึ้นคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบ และยังสามารถรับน้ำได้อีกเพราะทั้ง 2 เขื่อนนี้ปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 80

เลขาธิการ สทนช. กล่าวอีกว่า แม้จากการประเมินฝนระลอกนี้ จะช่วยเติมเต็มน้ำในพื้นที่ที่มักประสบปัญหาภัยแล้ง แต่บางพื้นที่ฝนตกน้อย นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สำรวจอ่างเก็บน้ำทั้งหมดทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก หากมีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 60 ของความจุ ให้จัดทำแผนเติมน้ำ โดยกรมฝนหลวงจะประสานและประเมินสถานการณ์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า