สนทช. เผยเขื่อนน้ำน้อยกว่าความจุ30%มีถึง37แห่ง เร่งถกแผนรับมือพื้นที่เสี่ยงแล้ง

เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ว่า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์ฝนเริ่มลดลง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในช่วงวันที่ 21-25 กันยายน 2561 จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ได้แก่ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งศูนย์เฉพาะกิจฯ จะยังติดตามเฝ้าระวังสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความแปรปรวนและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีปริมาณฝนลดลง สทนช.ได้หารือพร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนปรับลดการระบายน้ำในอ่างฯ ทุกขนาดตามการคาดการณ์ โดย สทนช.กำหนดปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อนเพื่อใช้ในช่วงฤดูแล้งอย่างมั่นคงคือ อ่างเก็บน้ำต้องมีปริมาณน้ำไม่น้อยกว่า 60% ของความจุ หากพบว่าอ่างฯ ใดน้อยกว่า 60% ต้องเร่งวางแผนเก็บกักน้ำและเติมน้ำ โดยประสานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากหลายพื้นที่ปริมาณฝนตกท้ายเขื่อนส่งผลให้ขณะนี้มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้อยกว่า 60% รวม 20 แห่ง แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนกิ่วลม และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ขนาดกลาง 18 แห่ง แต่ที่ต้องติดตามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ปัจจุบันมีถึง 37 แห่ง แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่มอก 26% เขื่อนทับเสลา 26% และขนาดกลาง 35 แห่ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 4 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 22 แห่ง ภาคตะวันออก 3 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคใต้ 5 แห่ง

นายสำเริง กล่าวว่า วันที่ 24 กันยายนนี้ สทนช.กำหนดให้มีการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำครั้งที่ 8/2561 โดยมีวาระสำคัญนอกจากประชุมติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและผลกระทบในปัจจุบันแล้ว ยังเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำต้นทุนน้อย ปี 2561/2562 เพื่อป้องกันผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งหน้าด้วย โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธาน ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ห้องประชุม 1 ประชารัฐ ชั้น 2 อาคารสำนักงาน ก.พ. (เดิม)