พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11(มทบ.11) ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในช่วงนี้ ว่า การเคลื่อนไหวอะไรก็ตามที่ยังทำภายใต้กรอบกฎหมาย ทางคสช.เพียงแค่ติดตามดูความเคลื่อนไหวเท่านั้น ดังนั้นทุกคนต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ต่างคนต่างไม่ละเมิดก้าวล่วงกัน ส่วนผู้บังคับใช้กฎหมายก็บังคับใช้อย่างถูกต้องเป็นธรรม ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข การบริหารราชการแผ่นดินก็สามารถเดินต่อไปได้ตามกรอบโรดแมป เพื่อนำไปสู่ความมุ่งหมายร่วมกันของพี่น้องคนไทยคือ มีการเลือกตั้งช่วงต้นปี 2562 ซึ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปตามนี้ และยังไม่มีอะไรที่จะทำให้ต้องทำให้นอกเหนือไปจากนี้ได้
พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่ลงไปพบปะพูดคุยกับประชาชน และลงพื้นที่ต่างๆนั้น ขอย้ำว่าคสช.ติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ซึ่งสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน คสช.ประเมินว่ายังไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่ต้องน่าวิตกและห่วงใย จนนำไปสู่ความไม่เรียบร้อยของบ้านเมือง
ส่วนการที่กลุ่มสามมิตรใช้พลัง ดูดส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตามภูมิภาค ไม่ถือว่าขัดคำสั่งคสช. หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวทางการเมือง อะไรก็ตาม ถ้าไม่ขัดกฎหมาย คสช.จะติดตามเฝ้าดูเท่านั้น และจะไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใดๆก็ตามที่เริ่มขัดกฎหมาย คสช.จะมีมาตรการแจ้ง ให้ทราบ จากนั้นก็ตักเตือน ห้ามปราม ระงับยับยั้ง ให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
“คสช.ไม่สามารถจะไปทำอะไรที่ผิดกรอบกฎหมาย ทำเกินอำนาจหน้าที่ได้ แล้วไปกลั่นแกล้งใคร จนสร้างความอยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับกลุ่มฝ่ายการเมืองใดๆได้ ซึ่งคสช.ก็ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายด้วยเช่นกับทุกคน และทุกสายตาของประชาชนคนไทยทั่วประเทศก็ติดตามดูการทำงานของรัฐบาลคสช. ดังนั้นเราก็ต้องพึงระมัดระวังในแง่ผู้บังคับใช้กฎหมายก็ต้องเคารพกฎหมายด้วย”พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชน รวมทั้งโลกโซเชียลจะจับจ้อง ตรวจสอบ ติดตามดูความเคลื่อนไหวของทหารอยู่แล้ว ทหารทุกคนก็ต้องระมัดระวัง อย่าไปทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง ทหารทุกต้องปฏิบัติตนตามกฎหมาย และระเบียบวินัย ขณะเดียวกันถ้าอะไรที่ทำผิดกฎหมาย และกรอบอำนาจหน้าที่ ภารกิจ เราก็มีมาตรการลงโทษอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งทางวินัยและทางอาญา
